06 Jan 2025 | Category: Market Updates

หลังจากปีที่ท้าทายสำหรับภาคธุรกิจ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ (S-REIT) ปิดปี 2567 ด้วยผลขาดทุน โดยดัชนี iEdge S-REIT มีผลตอบแทนรวมที่ -6.1% รวมการจ่ายเงินปันผล ปัจจุบัน ภาคธุรกิจ S-REIT มีการซื้อขายอยู่ที่ 0.84 เท่าของอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าทางบัญชีของหุ้น (P/B) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงส่วนลดถึง 16% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาว

ในครึ่งแรกของปี 2567 กอง S-REIT ต่าง ๆ มีผลตอบแทนรวมที่ 11.4% แต่ก็สามารถบริหารให้ฟื้นตัวกลับมาเกินครึ่งของผลขาดทุนได้ในครึ่งที่สองของปี ด้วยผลตอบแทนรวมที่ 6% และในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี โดยมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึงสามครั้งในปี 2567 ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนธันวาคมอยู่ที่ระดับ 4.25 – 4.50% (ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 5.25 – 5.50%)

ผลการดำเนินงานทั้งปีของ S-REIT สอดคล้องกับผลตอบแทนรวมที่ -5.2% ของดัชนี FTSE EPRA NAREIT Asia exJapan โดยในทั่วทั้งตลาด REIT หลักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กอง REIT ของออสเตรเลียมีผลตอบแทนรวมที่ 13.4% ในขณะที่กอง REIT ของญี่ปุ่นและฮ่องกงมีผลตอบแทนรวมที่ -11.3% และ -19.7% ตามลำดับ

กอง S-REIT เฉพาะประเภทธุรกิจมีผลตอบแทนรวมสูงที่สุดที่ 9.7% ในปี 2567 ทำให้สามารถรักษาตำแหน่งภาคอุตสาหกรรมย่อยที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดเป็นปีที่สองติดต่อกันหลังจากผลการดำเนินงานของกองในปี 2566 นอกจากนี้ กอง REIT กลุ่มการดูและสุขภาพและการค้าปลีกก็เป็นที่ภาคอุตสาหกรรมย่อยที่มีผลการดำเนินงานสูงสุดในปี 2567 ด้วยเช่นกัน โดยรั้งเป็นอันดับที่สองและอันดับที่สามตามลำดับ ในอีกทางหนึ่ง ภาคธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานต่ำกลับเป็นภาคอุตสาหกรรม กอง REIT ที่บริหารอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท และกอง REIT กลุ่มธุรกิจบริการต้อนรับ

5 S-REIT ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในปี 2567 ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คือ Frasers Hospitality Trust (ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 24.3%), Keppel DC REIT (ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20.6%), Stoneweg European REIT (ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20.2%), Elite UK REIT (ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 19.0%) และ Manulife US REIT (ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 15.3%)

ในด้านเงินลงทุนจากนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ พบว่า มีนักลงทุนสถาบันมียอดขายสุทธิจำนวน 1.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยก็มียอดซื้อสุทธิจำนวน 1.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์เช่นเดียวกัน และนักลงทุนรายย่อยยังคงลงทุนใน S-REIT อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มียอดซื้อสุทธิที่ 790 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2566 และ 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2565

ในปี 2567 นั้น กลุ่ม S-REIT ยังดำเนินกิจกรรมการระดมทุนมากขึ้น โดยระดมทุนได้มากกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมี
S-REIT สองกองที่ระดุมทุนได้มากถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

สําหรับการวิจัยและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectors สําหรับแผนภูมิ SREITs & Property Trusts

REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-secondary-fundraising-rebounds-2024-more-may-tap-capital-markets-next-year

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *