REIT Watch – ผลประกอบการของครึ่งปีแรกของ 2568 มีความหลากหลาย แต่ REIT ภาคธุรกิจการบริการเดินหน้าต่อไปด้วยการปรับโครงสร้างและการกระจายการลงทุนของพอร์ตโฟลิโอ

5 ทรัสต์ภาคธุรกิจการบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

ที่มา: เครื่องมือช่วยคัดกรองหุ้นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX Stock Screener), Morningstar (ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568) รายการทรัสต์ภาคธุรกิจการบริการที่มีการซื้อขายอย่างมาก 5 กอง

ทรัสต์ภาคธุรกิจการบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์สามกองจากห้ากองได้รายงานผลการดำเนินงานรายครึ่งปีสำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทรัสต์อีกสองกองมีกำหนดจะรายงานในสัปดาห์นี้

CapitaLand Ascott Trust (CLAS) รายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2568 โดยรายได้เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 398.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 6% เป็น 182.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น การปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอ และการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพทรัพย์สิน (AEI) จำนวนเงินปันผลทั้งหมดที่จ่ายให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ในครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 1% เป็น 91.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ถึงแม้ว่าเงินปันผลหลักที่จ่ายให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกัน (DPS) จะลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.53 เซนต์

CLAS ได้รับประโยชน์จากกระแสรายได้ที่มั่นคง โดย 66% ของกำไรขั้นต้นได้มาจากสัญญาเช่าแบบเหมารวม (Master Lease) และทรัพย์สินกลุ่มที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ตลาดหลักส่วนใหญ่ของ CLAS ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา มีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อหน่วยที่มีทั้งหมด (RevPAU) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ RevPau ของตลาดสิงคโปร์มีการปรับลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและการขาดการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่

CLAS ยังคงดำเนินกลยุทธ์การปรับโครงสร้างพอร์ตเชิงรุกในครึ่งแรกของปี 2568 โดยมีเป้าหมายที่การเพิ่มมูลค่าในระยะยาวและสร้างความมั่นคงของรายได้ โดยนับตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน กองทรัสต์ได้ทำการขายทรัพย์สินไปแล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยได้ขายทรัพย์สินที่ราคาสูงกว่ามูลค่าบัญชีถึง 55% และได้นำเงินที่ได้ไปลงทุนใหม่ในการเข้าซื้อทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่า เป็นมูลค่าทั้งหมด 530 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และ lyf Funan สิงคโปร์ อีกทั้งยังมีแผนการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพทรัพย์สินอีก 3 โครงการภายในปี 2569 และปัจจุบันมีการดำเนินการปรับปรุงใหม่ของ Somerset Clarke Quay ซึ่งเป็นที่พักอาศัยพร้อมการบริการแบบโรงแรม (serviced residence) อยู่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569

Far East Hospitality Trust (FEHT) เผชิญกับอุปสรรคในครึ่งแรกของปี 2568 โดยรายได้รวมตกลง 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 51.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์ (NPI) ตกลง 7.7% มาอยู่ที่ 45.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ การลดลงของรายได้นี้โดยหลักเนื่องมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงจากโรงแรมและ serviced residence ในสิงคโปร์ ซึ่งได้ชดเชยบางส่วนจากรายได้จากอาคารพาณิชย์และโรงแรม Four Points by Sheraton Nagoya ในญี่ปุ่นที่เพิ่งเข้าซื้อมา

เงินที่จะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยง (stapled security) กันรวมลดลง 8.7% มาอยู่ที่ 36.0 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ คิดเป็นเงินปันผลหลักที่จ่ายให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกัน (DPS) ที่ 1.78 เซนต์ แม้กำไรจะลดลง แต่ FEHT ยังคงมีงบดุลที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินรวมอยู่ที่ 32.8% อัตราความสามารถในการชำระดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.1 เท่า และต้นทุนเฉลี่ยของหนี้อยู่ที่ 3.4%

พอร์ตโฟลิโอของกองฯ ยังคงมีฐานหลักอยู่ในสิงคโปร์ โดยที่ทรัพย์สินในญี่ปุ่นสร้างรายได้จากการกระจายการลงทุน Gerald Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของผู้จัดการกองฯ กล่าวว่า “หลังจากการเริ่มต้นอย่างช้า ๆ ในครึ่งปีแรกของปีเนื่องจากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจมหภาค และความระมัดระวังของภาคธุรกิจ ตอนนี้ความต้องการเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น”

CDL Hospitality Trusts (CDLHT) มีผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่อ่อนตัวลง โดยรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์ (NPI) ลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 58.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และการจ่ายผลตอบแทนรวมหลังการกันสำรองลดลง 20.2% เหลือ 25.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินปันผลหลักที่จ่ายให้กับผู้ถือหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกัน (DPS) ที่ 1.98 เซนต์

การลดลงนี้เป็นผลมาจากการดำเนินงานที่อ่อนลงในตลาดส่วนใหญ่ ยกเว้น ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมด (RevPAR) ของทรัพย์สินในสิงคโปร์ตกลง 14.2% เนื่องจากขาดรายได้ของการจัดงานขนาดใหญ่และมีอยู่ในระหว่างการดำเนินการปรับปรุงโรงแรม W

อย่างไรก็ตาม พอร์ตทรัพย์สินในสหราชอาณาจักรสร้างรายได้ที่ดีให้กับ CDLHT โดยเฉพาะจากทรัพย์สินที่เข้าซื้อมาใหม่อย่าง Hotel Indigo Exeter และทรัพย์สินด้านที่อยู่อาศัยอย่าง Benson Yard และ The Castings ส่วนทรัพย์สินในญี่ปุ่นก็มีผลการดำเนินงานดีเช่นเดียวกัน โดยรายได้เฉลี่ยต่อห้องที่มีทั้งหมด (RevPAR) เพิ่มขึ้น 13.7% และรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 11.4%

Frasers Hospitality Trust จะรายงานอัปเดตธุรกิจสำหรับไตรมาสที่สามในวันที่ 4 สิงหาคม ขณะที่ Acrophyte Hospitality Trust จะรายงานผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งแรกของปี 2568 ในวันที่ 6 สิงหาคม

สําหรับการวิจัยและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectors สําหรับแผนภูมิ SREITs & Property Trusts

REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-secondary-fundraising-rebounds-2024-more-may-tap-capital-markets-next-year

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *