ประกาศ การเข้าซื้อกิจการโดย S-Reits ในเดือนกันยายน 2022

หมายเหตุ: มูลค่าสำหรับ Digital Core Reit นั้นขึ้นอยู่กับการรวบรวมเงินทุนผ่านหนี้สิน หรือ การระดมทุนเพื่อลงทุนในการทำธุรกรรมบางส่วนก่อน ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก 1.) การเข้าซื้อกิจการโดยรวม 2.) ส่วนแบ่งหรือหุ้นส่วนที่ 100%   ที่มา: ประกาศจากบริษัท

การเข้าซื้อกิจการ S-REIT ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีอัตราที่สูงขึ้น โดยมี S-Reits ถึงหกรายที่มีการประกาศข้อตกลงในเดือนกันยายน ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ข้อตกลงเหล่านี้รวมถึงประเภทอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล โลจิสติกส์ การดูแลสุขภาพ และการค้าปลีก โดยครอบคลุมไปทั่วทั้งเยอรมนี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

ในเดือนกันยายน ยังมีการเข้าซื้อกิจการครั้งแรกจาก Digital Core Reit และ Daiwa House Logistics Trust นับตั้งแต่การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) ในปี 2021 อีกด้วย

Daiwa House Logistics Trust (DHLT) ประกาศการเข้าซื้อกรรมสิทธิ์สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ 2 แห่งและที่ดิน 1 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่นจาก Daiwa House Industry ผู้เป็นสปอนเซอร์ โดยมีมูลค่ารวม 4.68 พันล้านเยน (45.1 ล้านเหรียญสิงคโปร์) คิดเป็นส่วนลด 11.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับมูลค่าประเมินเฉลี่ยของทรัพย์สิน ผู้จัดการ Reit คาดว่าการเข้าซื้อกิจการจะทำให้ส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยการลงทุน (DPU) สำหรับปีงบประมาณ 2022 ขึ้น 1.3 เปอร์เซ็นต์ ตามพื้นฐานของธรรมเนียมปฎิบัติ นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายในพอร์ตไปทั่วทั้งภูมิภาคต่างๆ ในญี่ปุ่น ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในทางภูมิศาสตร์ ในขณะที่บรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวได้

Digital Core Reit (DCREIT) ได้ตกลงที่จะซื้อหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ ในกรรมสิทธิ์ศูนย์ข้อมูลในแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี มูลค่า 558 ล้านเหรียญสหรัฐจาก Digital Realty ผู้เป็นสปอนเซอร์ โดยมีทางเลือกในการได้รับดอกเบี้ยถึง 89.9 เปอร์เซ็นต์ใน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในแฟรงค์เฟิร์ต และ ดอกเบี้ย 90 เปอร์เซ็นต์ในกรรมสิทธิ์ศูนย์ข้อมูลในเมืองดัลลาส รัฐเท็กซัส มูลค่า 199 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์ในท้ายที่สุดจะขึ้นอยู่กับว่า DCREIT จะรวบรวมเงินทุนผ่านหนี้สินหรือระดมทุนเพื่อลงทุนในการทำธุรกรรมบางส่วนก่อนหรือไม่

การเข้าซื้อกิจการคาดว่าจะเพิ่ม DPU สะสมขึ้นถึง 2 เปอร์เซ็นต์ หรือ 3.1 เปอร์เซ็นต์หาก DCREIT ดำเนินการโดยใช้ข้อตกลงที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งการทำข้อตกลงเหล่านี้จะสามารถช่วยให้ DCREIT สามารถขยายไปสู่สองตลาดใหม่และลดความเข้มข้นของตลาดลงได้

นอกเหนือจากทั้งสองกองทุนนี้แล้ว ยังมีการเข้าซื้อกิจการของญี่ปุ่นเกิดขึ้นหลายครั้งโดยกลุ่ม S-Reits ด้านการดูแลสุขภาพเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งได้แก่ ParkwayLife Reit และ First Reit เป็นต้น

ParkwayLife Reit ได้เข้าซื้อกิจการถึงสองครั้งในเดือนกันยายน ซึ่งประกอบด้วยบ้านพักคนชรา 2 แห่งในภูมิภาคมหานครโตเกียวจาก Daiwa House Industry โดยมีมูลค่ารวม 2.88 พันล้านเยน และบ้านพักคนชรา 3 แห่ง ได้แก่ Blue Terrace Kagura, Blue Rise Nopporo และ Blue Terrace Taisetsu จาก Blue Melon Capital Kabushiki Kaisha และ บริษัทย่อย โดยมีมูลค่ารวม 2.56 พันล้านเยน

First Reit ได้ทำการซื้อกิจการบ้านพักคนชรา 2 แห่ง ได้แก่ Loyal Residence Ayase และ Medical Rehabilitation Home Bon Sejour Komaki โดยมีมูลค่าการซื้อรวม 2.6 พันล้านเยน โดยตั้งข้อสังเกตว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตที่สำคัญสำหรับ First Reit โดยได้การซื้อกิจการบ้านพักคนชราเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึง 12 แห่งก่อนหน้านี้ในปี2022 การเข้าซื้อกิจการยังสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของ First Reit 2.0 เพื่อเพิ่มการเติบโตในตลาดที่พัฒนาแล้วให้มากกว่า 50% ของพอร์ต

REIT Watch เป็นคอลัมน์รายสัปดาห์ใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับ https://bit.ly/3Trt4Qa

 

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *