

กองทุน ETF ที่ลงทุนใน REIT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ 5 กอง
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX), Bloomberg (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568)
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กองทุนรวมดัชนี (ETF) ที่ลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์มีการเข้าซื้อสุทธิมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของนักลงทุนที่ต่อเนื่อง โดยมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมของกองทุน ETF เหล่านี้เพิ่มขึ้นถึง 40% ในช่วงหนึ่งปี ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ณ สิ้นครึ่งปีแรกของปี 2568
การเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการนี้เพิ่มขึ้นแซงหน้าการเปลี่ยนแปลงของราคาของภาค REIT ตามที่สะท้อนผ่านดัชนี iEdge S-REIT และดัชนี FTSE EPRA Nareit ที่รายงานผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 10.5% และ 12.5% ตามลำดับ ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันต่างมีส่วนสำคัญในการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทุน ETF ที่ลงทุนใน REIT ในสิงคโปร์
โดยเฉลี่ยแล้ว กองทุน ETF ที่ลงทุนใน REIT ทั้ง 5 กองมีผลตอบแทนรวมที่ 10.7% ในปีที่ผ่านมาสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 กิจกรรมการซื้อขายของกองทุน ETF ที่ลงทุนใน REIT เหล่านี้ยังเพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้าในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2568
ในบรรดากองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ที่มีการซื้อขายมากที่สุด 10 อันดับแรก โดยกองทุน Lion-Phillip S-REIT ETF และ NikkoAM-StraitsTrading Asia ex Japan REIT ETF โดดเด่นที่สุดและมีการเข้าซื้อสุทธิสูงสุด
กองทุน Lion-Phillip S-REIT ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในภาค S-REIT กองแรกและใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ อิงตามดัชนี Morningstar Singapore REIT Yield Focus ซึ่งมีหลักทรัพย์ 21 ตัว และมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 540 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองกองทุน ETF ที่ลงทุนเฉพาะใน S-REIT กองทุนฯ นี้ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 5.8% และสร้างผลตอบแทนรวมที่ 4.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568
กองทุน NikkoAM-StraitsTrading Asia ex Japan REIT ETF อิงตามดัชนี FTSE EPRA Nareit Asia ex Japan Net Total Return REIT ซึ่งประกอบด้วยหลักทรัพย์ 43 ตัวจากทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ ไทย และฟิลิปปินส์ โดยสิงคโปร์ยังคงเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงที่สุดที่ 68% ของพอร์ต ที่โดดเด่นคือ กองทุน ETF นี้จ่ายเงินปันผลรายไตรมาส ซึ่งต่างจากกองทุนอื่นที่จ่ายทุกครึ่งปี กองทุนนี้รั้งอันดับเป็นกองทุน REIT ETF ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองตามมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการโดยมีมูลค่ามากกว่า 420 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ทำให้มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.8% และสร้างผลตอบแทนรวม 6.0% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568
ในแง่ของผลตอบแทน กองทุน UOB Asia Pacific Green REIT ETF เป็นกองทุน REIT ETF ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในครึ่งแรกของปี 2568 โดยให้ผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 9.3% ดัชนีอ้างอิงของกองทุนนี้ ซึ่งก็คือดัชนี iEdge-UOB APAC Yield Focus Green REIT นั้นให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) และการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว ดัชนีนี้ประกอบด้วย REIT 50 กอง จากออสเตรเลีย (42%) ญี่ปุ่น (32%) สิงคโปร์ (19%) และฮ่องกง (7%) ซึ่งกองทุน UOB APAC Green REIT ETF นี้เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนอย่างยั่งยืน ในขณะที่ยังคงได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับที่ดี
กองทุน CSOP iEdge S-REIT Leaders ETF มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงที่สุดในบรรดากองทุน REIT ETF ห้ากอง อยู่ที่ 6.0% โดยกองทุนนี้อิงดัชนี iEdge S-REIT Leaders ซึ่งมี S-REIT จำนวน 22 กอง
เมื่อไม่นานมานี้ Helena Wang นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก Phillip Securities ได้เริ่มวิเคราะห์ขอบเขตการลงทุนของกองทุน Phillip SGX APAC Dividend Leaders REIT ETF สำหรับการลงทุนของกองฯ ใน REIT 31 กอง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) และการเติบโตของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ รายงานระบุว่า ตั้งแต่ปี 2564 เงินปันผลของกองทุนคงที่อยู่ระหว่าง 4 ถึง 6 เซนต์ นอกจากนี้ มูลค่าตามบัญชีของกองฯ ก็มีน่าดึงดูดมากขึ้น จากที่เคยซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (P/B) ที่ 1.3 เท่า ก็มาซื้อขายที่ 0.8 เท่าในปัจจุบัน กองทุนนี้อิงดัชนี iEdge APAC ex-Japan Dividend Leaders REIT ซึ่งคัดเลือกกอง REIT ตามการจ่ายเงินปันผล
สําหรับการวิจัยและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectors สําหรับแผนภูมิ SREITs & Property Trusts
REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-secondary-fundraising-rebounds-2024-more-may-tap-capital-markets-next-year