17 Feb 2025 | Category: Market Updates

S-REIT ที่มีการลงทุนในศูนย์ข้อมูล

ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX), Bloomberg ข้อมูล ณ 14 ก.พ.

การเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และทรัพย์สินที่เกี่ยวกับศูนย์ข้อมูล มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพิ่มขึ้นและเร็วขึ้น

Property consultancy JLL ระบุในแนวโน้มศูนย์ข้อมูลทั่วโลก (Global Data Centre Outlook) ปี 2568 ว่า ความสามารถในการรองรับของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกคาดว่าจะโตขึ้นที่ 15% ต่อปี ระหว่างปี 2566 และ 2570 แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

Property consultancy JLL กล่าวว่า “ภาคธุรกิจศูนย์ข้อมูลอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างมากต่อธุรกิจซึ่งเป็นผลจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ AI” และเสริมว่าการผสานของความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตของศูนย์ข้อมูลกำลังนำไปสู่ ‘โอกาสการลงทุนแห่งยุค’

ในบรรดาทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สิงคโปร์ (S-REIT) ที่มีการซื้อขายเป็นอย่างมาก มีห้ากองที่มีการลงทุนในศูนย์ข้อมูล รวมถึงทรัสต์ที่มุ่งเน้นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพียงประเภทดียว อย่าง Keppel DC REIT และ Digital Core REIT

Keppel DC REIT รายงานในเดือนที่แล้วว่ารายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ใน มาอยู่ที่ 260.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปีงบประมาณ 2567 และเงินปันผลต่อหน่วย (DPU) ก็เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 0.09451 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในปีงบประมาณ 2567 เช่นเดียวกัน

การเพิ่มขึ้นของเงินปันผลต่อหน่วยเป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการและการปรับขึ้นค่าเช่าทั้งในสัญญาใหม่และการปรับขึ้นค่าเช่าตามระยะในสัญญาเดิม ผู้จัดการกองฯ กล่าวว่า แนวโน้มตลาด รวมถึง AI แบบรู้สร้าง (Generative AI) และความต้องการอันแข็งแกร่งสำหรับศูนย์ข้อมูลช่วยให้ REIT สามารถปรับขึ้นค่าเช่าได้มากถึง 39% ในปีงบประมาณ 2567 โดยกองฯ มุ่งเน้นไปที่ตลาดศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ การค้นหาและนำทรัพยากรมาใช้เป็นโอกาสที่ช่วยเพิ่มมูลค่าหรือผลกำไรอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกัน Digital Core REIT รายงานในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รายได้สุทธิจากทรัพย์สินที่มีการดำเนินงานอยู่แล้วเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในปีงบประมาณ 2567 ในขณะที่รายได้ที่จะนำไปปันผลได้เพิ่มขึ้น 10.9% เป็น 46.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กองฯ มีพอร์ตโฟลิโอที่ลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภท 10 แห่ง ที่มีมูลค่าถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเน้นที่ตลาดศูนย์ข้อมูลหลักทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี และญี่ปุ่น ผู้จัดการกองฯ ระบุว่า พื้นฐานระบบคลาวน์ (cloud) และการนำเทคโนโลยีมาใช้ยังคงแข็งแกร่ง ในขณะที่ AI ได้เร่งความต้องการศูนย์ข้อมูลทั่วโลกให้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

สำหรับกองทรัสต์อื่น ๆ Mapletree Industrial Trust (MINT) รายงานในเดือนมกราคมถึงเงินปันผลต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนสำหรับไตรมาสที่สามสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567 ในขณะที่รายได้รวมและรายได้สุทธิจากทรัพย์สินในช่วงเวลาเดียวกันก็เพิ่มขึ้น 2% และ 2.6% ตามลำดับ

กองทรัสต์ MINT ซึ่งมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารมูลค่า 9.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นศูนย์ข้อมูล กล่าวว่า การเติบโตเป็นผลจากส่วนรายได้ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูลในโอซาก้าและอาคารแบบ mixed-use ที่เพิ่งเข้าซื้อในโตเกียว และสัญญาเช่าใหม่และสัญญาเช่าที่ต่อสัญญาสำหรับทรัพย์สินของพอร์ตในสิงคโปร์และอเมริกาเหนือ

กองทรัสต์ S-REIT อื่น ๆ ที่ยังคงมีการลงทุนในศูนย์ข้อมูล ได้แก่ CapitaLand Ascendas Reit (CLAR) และ CapitaLand India Trust โดย CapitaLand India Trust มีศูนย์ข้อมูลสี่แห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และคาดว่าจะเริ่มมีรายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2568

CBRE ระบุในแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ (US Real Estate Market Outlook) ปี 2568 ว่า ความต้องการของความสามารถในการรองรับของศูนย์ข้อมูลในอเมริกาเหนือคาดกว่าจะมีเกินกว่าอุปทานที่มีอยู่ถ้าแม้จะมีการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลอยู่ก็ตาม การเติบโตของความต้องการนี้ได้รับแรงผลักดันจากบริการดิจิทัลต่าง ๆ, cloud computing และการนำ AI และ 5G มาใช้งาน

ถึงแม้ว่าจะมีการเทขาย AI บางตัวและศูนย์ข้อมูลบางแห่งในเดือนที่แล้วจากรายงานว่า DeepSeek สตาร์ทอัพ AI สัญชาติจีนสามารถสร้างโมเดลที่มีสมรรถภาพที่เทียบเคียงกันได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่การพัฒนาล่าสุดอาจยังคงเป็นผลดีสำหรับภาคธุรกิจนี้

Jonathan Koh นักวิเคราะห์จาก UOB Kay Hian ยังคงคำแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในภาค REIT ในเดือนที่แล้ว โดยมีคำแนะนำให้ซื้อใน Digital Core REIT, Keppel DC REIT, MINT และ CLAR เขาระบุว่า DeepSeek แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่รวดเร็วของนวัตกรรมของ AI และผู้เล่นทั้งในสหรัฐฯ และจีนสามารถนำเทคนิคของนวัตกรรมของ AI มาใช้เพื่อลดต้นทุนในการฝึกโมเดล AI ใหม่ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลาย

เขากล่าวว่า “ความต้องการสำหรับศูนย์ข้อมูลสำหรับการฝึก AI และการนำ AI ที่ฝึกแล้วมาใช้งาน (AI inference) จะยังคงเพิ่มขึ้น”

สําหรับการวิจัยและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectors สําหรับแผนภูมิ SREITs & Property Trusts

REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-secondary-fundraising-rebounds-2024-more-may-tap-capital-markets-next-year

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *