

18 Nov 2024 | Category: Market Updates
5 กอง S-Reit ที่มีมูลค่าธุรกรรมสูงสุดในไตรมาส 4

* ราคาทรัพย์สินที่ตกลงกัน
ที่มา: การยื่นเอกสารของบริษัท
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ (S-Reit) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์มีการดำเนินกิจกรรมการบริหารพอร์ตอยู่ตลอดในไตรมาสที่สี่จนถึงปัจจุบัน ด้วยผู้จัดการกองทรัสต์คาดหวังที่จะสร้างผลกำไรสูงสุดจากทรัพย์สินและเก็บเกี่ยวการเติบโต
ณ วันศุกร์ (15 พ.ย.) – S-Reit ได้ประกาศถึง 10 ธุรกรรม อันประกอบด้วย 5 การเข้าซื้อกิจการ และ 5 การเลิกกิจการ สำหรับไตรมาสจนถึงปัจจุบัน
โดยเมื่อวันศุกร์ ผู้จัดการกอง CapitaLand Ascendas Reit (Clar) กล่าวว่าทางกองทรัสต์ได้ซื้อที่ดินส่วนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะถูกพัฒนาเป็นพื้นที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อโลจิสติกส์ใหม่ชื่อว่า Summerville Logistics Center
เงินลงทุนทั้งหมดเป็นจำนวนประมาณ 94.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของกองทรัสต์ที่จะขยายพอร์ตทางโลจิสติกส์เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวการเติบโตที่น่าจะเกิดขึ้นในภาคธุรกิจนี้ โดยผู้จัดการกองทรัสต์เสริมว่ากองทรัสต์จะค้นหาโอกาสในการขยายธุรกิจในสหรัฐฯ ต่อไป โดยพิจารณาจากแนวโน้มการผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศ และการย้ายฐานการผลิตสินค้าและบริการกลับประเทศ
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 11 ต.ค. ผู้จัดการของ Clar ประกาศถึงการขายกิจการของทรัพย์สินที่ 21 Jalan Buroh ของกองทรัสต์ที่มูลค่า 112.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกำไรต่อราคาประเมิน และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของผู้จัดการที่จะพัฒนาคุณภาพพอร์ตของ Clar
ในขณะเดียวกัน CapitaLand Ascott Trust (Clas) ประกาศถึงการเข้าซื้อกิจการหนึ่งธุรกรรมและการขายทรัพย์สินเลิกกิจการสองธุรกรรมในไตรมาสนี้อันเป็นส่วนของกลยุทธ์การสร้างพอร์ตใหม่เพื่อที่จะหมุนเวียนเงินทุนให้เป็นทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
ผู้จัดการทรัสต์กล่าวเมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่าทางกองทรัสต์กำลังเข้าซื้อ Lyf Funan Singapore ณ ราคาทรัพย์สินที่ตกลงกันที่ 263 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ทางกองทรัสต์ยังประกาศในประเด็นอื่นว่ากองทรัสต์จะขาย Citadines Karasuma-Gojo Kyuto ในญี่ปุ่น และ Somerset Olympic Tower Tianjin ในจีนเพื่อเลิกกิจการในเดือนตุลาคม
ในปีนี้ Clas ได้ขายทรัพย์สินเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ก่อนการขายเลิกกิจการของ Somerset Olympic Tower Tianjin ซึ่งนอกจากการเข้าซื้อกิจการแล้ว ทรัสต์ยังได้ดำเนินการโครงการปรับปรุงทรัพย์สิน ซึ่งในปีนี้จนถึงปัจจุบันได้แล้วเสร็จไปห้าแห่งของทรัพย์สินที่ทรัสต์มี
กอง S-Reit หลายกองก็ได้ประกาศถึงการเข้าซื้อกิจการที่ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ภาคธุรกิจใหม่
ผู้จัดการของ Parkway Life Reit กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าทรัสต์จะเข้าซื้อสถานดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยพักฟื้น 11 แห่งในฝรั่งเศส เป็นมูลค่า 111.2 ล้านยูโร (159.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ซึ่งสอดคล้องกับการขยายขอบเขตการลงทุน
ผู้จัดการกล่าวว่าขอบเขตที่ขยายออกไปนี้เปิดโอกาสให้เข้าถึงโอกาสการลงทุนที่มากขึ้นเพื่อผลักดันการเติบโตในระยะยาว และยังสอดคล้องกับกลยุทธ์การสร้างตลาดหลักที่สามนอกสิงคโปร์และญี่ปุ่น
เช่นเดียวกันกับ Frasers Logistics & Commercial Trust (FLCT) ที่ได้ประกาศว่าทรัสตร์จะเข้าซื้อ 2 Tuas South Link 1 ที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ Tuas Mega เป็นมูลค่า 140.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ การเข้าซื้อนี้นับเป็นการเข้าสู่ตลาดโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ของ FLCT และเป็นส่วนของแผนการขยายพอร์ตโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมของทรัสต์
ส่วนทรัสต์อื่น ๆ CapitaLand Integrated Commercial Trust (CICT) กล่าวเมื่อ 12 พ.ย. ว่าทรัสต์ได้ขายอาคารสำนักงานเกรดเอที่ 21 Collyer Quay ในสิงคโปร์ ที่มูลค่า 688 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
รายได้จากการขายดังกล่าวทำให้ CICT มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการชำระหนี้และค่าใช้จ่ายในการลงทุน งานปรับปรุงทรัพย์สิน การลงทุน และเงินทุนที่ต้องใช้ในธุรกิจองค์กรทั่วไปและเงินทุนหมุนเวียน
ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเกิดขึ้น กอง S-Reit ต่าง ๆ อาจสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำข้อตกลงได้ดีขึ้น การขายทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนไปแล้วนั้นสามารถช่วยให้กอง S-Reit ต่าง ๆ ลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกองได้ ซึ่งทำให้มีความสามารถในการก่อหนี้เพื่อนำมาใช้เป็นทุนสำหรับโอกาสใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้สูงขึ้น
Knight Frank กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่ากิจกรรมการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัวในเดือนกันยายน ท่ามกลางการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ
บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เสริมว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเป็นตัวกระตุ้นสำหรับข้อตกลงที่กำลังจะเกิดขึ้นและมีแนวโน้มเป็นสัญญาณบวกสำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ
ธุรกรรมที่ใหญ่ที่สุดโดยกอง S-Reit ในปี 2567 รวมถึงการเข้าซื้อกิจการถึง 50% ใน Ion Orchard ของ CICT เป็นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ การขายกิจการ Mapletree Anson ของทรัสต์ Mapletree Pan Asia Commercial เป็นมูลค่า 775 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 24.5% ของทรัสต์ Frasers Centrepoint ในศูนย์การค้า Nex เป็นมูลค่า 523.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
สำหรับข้อมูลและการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectorsเพื่อดูแผนภูมิ SREITs & Property Trusts
REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-remain-active-acquisitions-and-divestments-managers-eye-growth