

- ใน 3Q24 นักลงทุนรายย่อยมียอดขายสุทธิของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ถึง 955 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีปริมาณยอดขายสุทธิจำนวนมากในเดือนกันยายน โดยดัชนี STI มีผลตอบแทนทั้งหมดใน 3Q24 ที่ 10% โดยมีดัชนี iEdge SG Manufacturing และ iEdge S-REIT ที่มีผลตอบแทนทั้งหมดที่ 14% และ 17% ตามลำดับ
- หุ้นสิงคโปร์ 10 ตัว ที่มียอดขายสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดใน 3Q24 มีกำไรเฉลี่ยของไตรมาสที่ 17% ทำให้มีผลตอบแทนเก้าเดือนรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 19% ในขณะเดียวกัน หุ้น 10 ตัว ที่มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดในเดือนกันยายน มีกำไรเฉลี่ยเพียง 2% สำหรับ 3Q24 นอกจากแค่ผลตอบแทนรวมสำหรับเก้าเดือนที่ 2%
- หุ้น 5 ตัว ที่มียอดขายสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดใน 3Q24 คือ Singtel (-616 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), SGX (-256 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), SATS (-122 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), UOB (-117 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) และ Suntec REIT (-82 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ในขณะที่หุ้น 5 ตัว ที่มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดใน 3Q24 คือ YZJ Shipbuilding (+243 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), SIA (+228 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), Keppel (+113 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์), Genting (+ 64 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) และ UMS (+34 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์)
นักลงทุนรายย่อยมียอดขายสุทธิของหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ถึง 955 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินสำคัญใน ASEAN ได้แซงนำหน้าค่าเงินระดับภูมิภาคอื่นเนื่องจากมากการพิมพ์ธนบัตรเพิ่มและการแข็งตัวของค่าเงินใน 2Q24 ยอดซื้อขายสุทธิของรายย่อยในประเทศนั้นประกอบไปด้วยยอดขายสุทธิจำนวน 19 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือนกรกฎาคม ยอดซื้อสุทธิจากรายย่อยในจำนวนที่ต่างกันมากถึง 603 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือนสิงหาคม ตามด้วยยอดขายสุทธิจำนวนมากถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือนกันยายน ทำให้มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยไหลเข้าตลาดหุ้นในประเทศสำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2567 ถึง 121 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ นอกจากนี้ ดัชนี STI ยังแตะถึงจุดสูงสุดในรอบ 17 ปี ที่ 3,652.62ในเดือนกันยายนนี้เอง โดยจุดสูงสุดก่อนหน้าเกิดขึ้นเมื่อปี 2550
ในระหว่าง 3Q24 ดัชนี STI มีผลตอบแทนรวมที่ 9.9% ทำให้ผลตอบแทนรวมของระยะเวลาเก้าเดือนของดัชนีอยู่ที่ 16.1% ในขณะที่ดัชนี FTSE ASEAN All-Share มีผลตอบแทนรวมของ 3Q24 และผลตอบแทนรวมของระยะเวลาเก้าเดือนอยู่ที่ 11.9% และ 13.5% ดัชนี FTSE APAC Ex-Japan มีผลตอบแทนรวมของ 3Q24 และผลตอบแทนรวมของระยะเวลาเก้าเดือนอยู่ที่ 5.0% และ 17.0% และดัชนี FTSE Asia Pacific มีผลตอบแทนรวมของ 3Q24 และผลตอบแทนรวมของระยะเวลาเก้าเดือนอยู่ที่ 4.0% และ 15.3%
10 หุ้นสิงคโปร์ที่มียอดขายสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยใน 3Q24 มากที่สุด มีดังต่อไปนี้
ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ที่มา: SGX (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์) และ Refinitive หมายเหตุ: ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover); NIF หมายถึง ยอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Inflow), NRF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิของนักลงทุนรายย่อย (Net Retail Flow)
ตามตารางด้านบน ยอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยของ SATS เป็นยอดที่สูงที่สุดเมื่อเทียบสัดส่วนยอดขายสุทธิ (122 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) กับมูลค่าตามราคาตลาด ณ สิ้นสุดไตรมาส (5.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ที่ 2% SATS ยังมีผลตอบแทนรวมถึง 27% ใน 3Q24 ที่มีปัจจัยมากกำไรของเก้าเดือนนี้ โดยเมื่อ 20 ส.ค. SATS ได้ย้ำถึงการเริ่มต้นเข้าสู่ FY25 ที่แข็งแกร่ง โดยมีกำไรหลังจากภาษีเงินได้และส่วนได้เสียของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสำหรับ 1QFY25 ที่ 65 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ การกลับมามีกำไรของการขาดทุนจำนวน 29.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ใน 1QFY24 ซึ่งโดยหลักเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เกิดประโยชน์จากขนาดของธุรกิจ และการเป็นช่วงเวลาหลังความสำเร็จของการเข้าซื้อกิจการ WFS
หุ้นในประเทศ 10 ตัว ที่มียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนรายย่อยสูงที่สุดใน 3Q24 ปรากฏตามตารางด้างล่างนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้น 10 ตัว ที่อยู่ในตารางด้านบนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 17% สำหรับไตรมาส หุ้นที่อยู่ในตารางนี้กลับมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2% ใน 3Q24

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ที่มา: SGX (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์) และ Refinitive หมายเหตุ: ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover); NIF หมายถึง ยอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Inflow), NRF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิของนักลงทุนรายย่อย (Net Retail Flow)

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ที่มา: SGX (ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์) และ Refinitive หมายเหตุ: ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover); NIF หมายถึง ยอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Inflow), NRF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิของนักลงทุนรายย่อย (Net Retail Flow)