• ในบรรดาหุ้น 100 ตัวที่มีการซื้อขายมากที่สุดของสิงคโปร์ในปีนี้ มีหุ้นมากกว่า 20 ตัวที่อยู่นอกกลุ่มหุ้น 100 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด หุ้นที่ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้ปัจจุบันมีสภาพคล่องและได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงกว่าขนาดของตน โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADT) รวมที่ 42.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และมีมูลค่าตามราคาตลาดรวมที่ 8.15 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

 

  • หุ้นกลุ่มภาคอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงาน คิดเป็นเกือบ 80% ของหุ้นกว่า 20 ตัวในกลุ่ม แม้ว่าจะมีสัดส่วนน้อยกว่า 40% ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ก็ตาม การกระจุกตัวนี้สอดคล้องกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานและเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนจากการนำ AI มาใช้ และหุ้นกลุ่มพลังงานที่กำลังปรับทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียนท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบาย

 

  • ในหุ้นกลุ่มนี้ CNMC Goldmine, Oiltek International, Parkson Retail และ LHN ติดอันดับในหุ้นห้าอันดับแรกที่มีการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายสูงสุด (คิดเป็นอัตราร้อยละ) ทั้งเมื่อเทียบช่วงครึ่งหลังของปี 2568 กับครึ่งแรกของปี 2568 และเมื่อเทียบทั้งปี 2568 กับปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CNMC Goldmine ที่ยังเป็นหนึ่งในสามหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รองอีกด้วย

 

แม้ว่าหุ้นขนาดใหญ่มักจะครองอันดับต้น ๆ ด้านมูลค่าการซื้อขายและสภาพคล่อง แต่หุ้นขนาดเล็กและขนาดกลางก็มักจะปรากฏเป็นผู้นำด้านสภาพคล่องที่โดดเด่น

ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ มีหุ้น 22 ตัวที่อยู่ในกลุ่มหุ้น 100 ตัว ที่มีมูลค่าการซื้อขายมากที่สุดในปีนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็อยู่นอกกลุ่มหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 100 อันดับแรก ตัวอย่างเช่น หุ้น ISOTeam ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รองที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 678,789 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในปีนี้ ทำให้หุ้นนี้อยู่ในกลุ่มหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุด 100 อันดับแรกของสิงคโปร์ ขณะที่มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทอยู่ที่เพียง 64 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งทำให้หุ้นของบริษัทอยู่ในกลุ่มหุ้น 300 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดใหญ่ที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้ หุ้น Grand Venture Technology ซึ่งอยู่ระหว่างการเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ และหุ้น Soon Hock Enterprises ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ก็มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน แต่ไม่ได้ถูกนำมารวมอยู่ในกลุ่มหุ้นทั้ง 22 ตัวนี้

โดยรวมแล้ว หุ้นทั้ง 22 ตัวมีมูลค่าตามราคาตลาดรวมอยู่ที่ 8.15 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADT) ในปี 2568 จนถึงวันที่ 21 ตุลาคม อยู่ที่ 42.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเปรียบเทียบกัน หุ้น Genting Singapore มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 8.89 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 25.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

หุ้นทั้ง 22 ตัวดังกล่าวแสดงตามตารางด้านล่างนี้ โดยหุ้นกลุ่มนี้มีหุ้น 10 ตัวที่อยู่ในดัชนี FTSE ST Mid & Small Cap และมีหุ้น 7 ตัวที่อยู่ในดัชนี iEdge Next 50

หุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มหุ้น 100 ตัวที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ตามมูลค่าตลาด ชื่อย่อ มูลค่าตามราคาตลาด (S$M) ADT ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (S$) อันดับตามมูลค่าตามราคาตลาด อันดับตาม ADT ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน NIF ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (S$) TR ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (%) iEdge
Next 50
FTSE ST
Mid & Small
ภาคธุรกิจ
AEM SGD AWX 560 5,658,642 115 37 -6.54 24 * เทคโนโลยี
Rex Intl 5WH 214 4,670,643 188 41 14.00 36 พลังงาน / น้ำมันและก๊าซ
Frencken E28 641 4,580,863 108 42 10.40 36 * * เทคโนโลยี
Wee Hur E3B 643 3,945,527 107 46 26.75 98 * * อุตสาหกรรม
CNMC Goldmine 5TP 490 3,381,153 127 50 16.80 418 วัสดุ & ทรัพยากร
Geo Energy Res RE4 695 3,067,302 103 53 28.37 68 * * พลังงาน / น้ำมันและก๊าซ
CSE Global 544 528 2,625,856 119 59 32.40 84 * เทคโนโลยี
Nam Cheong 1MZ 275 1,662,883 172 72 2.65 66 อุตสาหกรรม
RH Petrogas T13 136 1,395,211 218 77 3.05 3 พลังงาน / น้ำมันและก๊าซ
Nanofilm MZH 450 1,351,237 134 79 -10.90 -8 * * เทคโนโลยี
LHN 41O 355 1,263,297 155 80 1.46 84 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
GRC S3N 284 1,090,159 170 85 0.04 211 อุตสาหกรรม
Parkson Retail O9E 95 1,076,310 258 86 -6.08 178 สินค้าฟุ่มเฟือย
SamuderaShipping S56 498 1,059,621 126 87 6.67 26 * * อุตสาหกรรม
MarcoPolo Marine 5LY 327 975,762 162 88 6.72 64 อุตสาหกรรม
Yoma Strategic Z59 194 829,415 197 90 4.18 11 * อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
Aztech Gbl 8AZ 502 771,375 124 92 -8.53 10 * * เทคโนโลยี
Lum Chang Creations LCC 156 756,990 213 94 -3.75 N/A อุตสาหกรรม
Oiltek HQU 365 716,367 153 96 2.75 149 อุตสาหกรรม
Prime US Reit USD OXMU 348 705,105 156 97 -4.61 6 * ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
ISOTeam 5WF 64 678,789 290 99 0.67 37 อุตสาหกรรม
Valuetronics BN2 331 658,081 160 100 16.12 36 * เทคโนโลยี

หมายเหตุ: ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow), TR หมายถึง ผลตอบแทนรวม ข้อมูล ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2568

หมายเหตุ: ตารางด้านบนไม่รวม Soon Hock Enterprises ที่เพิ่งเข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม และไม่รวม Grand Venture Technologies ซึ่งมีวันซื้อขายวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม

ตามรายละเอียดที่แสดงในตารางด้านบน กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงาน ครองกลุ่มหุ้นทั้ง 22 ตัวนี้ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 80% ของกลุ่ม แม้ว่าจะมีสัดส่วนน้อยกว่า 40% ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ก็ตาม ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มทั่วโลกที่มีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงหนุนจากความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานและความพยายามเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทาน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เร่งการนำ AI มาใช้ และหุ้นกลุ่มพลังงานที่กำลังปรับทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียนท่ามกลางความมั่นคงด้านพลังงานและการรวมกลุ่มความร่วมมือระดับภูมิภาค

ในหุ้นกลุ่มนี้ CNMC Goldmine, Oiltek International, Parkson Retail และ LHN ติดอันดับในหุ้นห้าอันดับแรกที่มีการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายสูงสุด (คิดเป็นอัตราร้อยละ) ทั้งเมื่อเทียบช่วงครึ่งหลังของปี 2568 กับครึ่งแรกของปี 2568 และเมื่อเทียบทั้งปี 2568 กับปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง CNMC Goldmine ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสามหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์รอง ร่วมกับ Lum Chang Creations (ซึ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม) และ ISOTeam

นอกจากนี้ หุ้น 22 ตัวนี้ยังมียอดการซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันรวม 132.35 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2568 จนถึงวันที่ 21 ตุลาคม อีกด้วย โดยในกลุ่มนี้ CSE Global มียอดการซื้อสุทธิโดยนักลงทุนสถาบันมากที่สุดที่ 32.10 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ตามด้วย Geo Energy Resources ที่ 28.37 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และ Wee Hur Holdings ที่ 26.75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สำหรับปี 2568

แนวโน้มเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าการเป็นผู้นำด้านสภาพคล่องไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะหุ้นขนาดใหญ่เท่านั้น เนื่องจากหุ้นขนาดเล็กกำลังดึงดูดการเข้าซื้อจากนักลงทุนสถาบันและการซื้อขายอย่างคึกคักมากขึ้น

ในอนาคต ความสามารถของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีที่ไม่ใช่หุ้นขนาดใหญ่ในการครองอันดับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADT) จะขึ้นอยู่กับผลกระทบของความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าที่ยืดเยื้อ การยกระดับมาตรการคุ้มครองทางการค้า เช่น ภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้านอกเหนือจากภาษี อาจยับยั้งการลงทุน ทำลายห่วงโซ่อุปทาน และชะลอการเติบโตของผลผลิต ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เน้นย้ำในแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุด พร้อมกันนั้น IMF ยังชี้ถึงความเสี่ยงด้านบวกที่สำคัญ เช่น ความเป็นไปได้ในการเกิดข้อตกลงการค้าทวิภาคีและพหุภาคีรูปแบบใหม่ที่ชัดเจนและมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยยกระดับผลผลิตและการค้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการเพิ่มผลผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *