• เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ดัชนี Straits Times (STI) ทำสถิติสูงสุดใหม่ของการซื้อขายรายวันที่ 4,355.84 ก่อนปิดวันทำการซื้อขายที่ 4,346.46 ส่งผลให้ผลตอบแทนรวมของปี 2568 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6% ซึ่งหากนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ผลตอบแทนรวมจะอยู่ที่ 11.5% การปรับตัวขึ้นครั้งนี้ยังทำให้มูลค่าตามราคาตลาดของตลาดหุ้นสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเป็น 983 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

 

  • นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน Yangzijiang Shipbuilding, DFI Retail และ City Developments ขึ้นนำการปรับขึ้นของดัชนี STI โดย City Developments มีสัดส่วนการเข้าซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันสูงที่สุดเมื่อเทียบกับมูลค่าตามราคาตลาดของหุ้น 30 ตัวในดัชนี ทั้งสามบริษัทนี้ยังมีการปรับขึ้นประมาณการราคาเป้าหมายที่ใกล้เคียงกัน

 

  • ในบรรดาหุ้นประมาณ 100 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ City Developments เป็นหุ้นที่มีการเข้าซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันสูงที่สุดเป็นอันดับสองตั้งแต่เดือนมิถุนายน รองจาก iFAST โดยในวันนี้ iFAST ครบรอบ 25 ปีนับตั้งแต่การก่อตั้ง ซึ่งประจวบเหมาะกับผลตอบแทนรวมเฉลี่ยต่อปีที่ 25% นับตั้งแต่การจดทะเบียนเข้าตลาดในเดือน ธ.ค. 2557 และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ 25% สำหรับครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568

STI ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งจากแรงปรับตัวขึ้นของ DBS

เมื่อวันที่ 10 กันยายน ดัชนี Straits Times (STI) ทำสถิติสูงสุดใหม่ของการซื้อขายรายวันที่ 4,355.84 ก่อนปิดที่ 4,346.46 ส่งให้ผลตอบแทนรวมของปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 19.6% และ 11.5% หากนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ขณะเดียวกันมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมของ ETF ที่อิงตามดัชนี STI สองกอง ได้โตขึ้นมาอยู่ที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นของการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนรายเดือนใน ETF ในดัชนี STI ตั้งแต่สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 8.0%

การทำสถิติสูงสุดใหม่ของดัชนี STI ได้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่หุ้น DBS Group Holdings ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 52.87 ดอลลาร์สิงคโปร์ เนื่องด้วย DBS Group Holdings ที่มีสัดส่วนเป็น 26.4% ของดัชนี STI การปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนและราคาเป้าหมายล่าสุดของ JPMorgan จึงมีบทบาทสำคัญในการปรับเพิ่มประมาณการเป้าหมายของดัชนี STI ขึ้นเป็น 4,491 ในสัปดาห์นี้ จาก 4,470 ณ สิ้นสัปดาห์ที่แล้ว และ ณ เวลาของการเขียนบทความนี้ ในช่วงเช้าของวันที่ 11 กันยายน ดัชนี STI และ DBS Group Holdings มีระดับสูงสุดใหม่ของการซื้อขายรายวันใหม่อีกครั้งที่ 4,367.51 และ 53.24 ดอลลาร์สิงคโปร์ตามลำดับ

นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน Yangzijiang Shipbuilding, DFI Retail Group และ City Developments (CDL) ได้สร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในดัชนี STI โดย CDL ยังสามารถดึงดูดการเข้าซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับมูลค่าตามราคาตลาด ทั้งสามบริษัทนี้ยังมีการปรับขึ้นประมาณการราคาเป้าหมายใกล้เคียงกันที่ 16%, 15% และ 20% ตามลำดับ

ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow), TR หมายถึง ผลตอบแทนรวม; ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน 2568

คำสั่งซื้อ การขายทรัพย์สิน และเงินปันผล: อัปเดตสำคัญจาก Yangzijiang Shipbuilding, DFI Retail และ CDL

ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม Yangzijiang Shipbuilding รายงานกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 27.6% เป็นมูลค่า 4.4 พันล้านหยวน ซึ่งได้รับแรงหนุนโดยต้นทุนเหล็กที่ลดลง ราคาสัญญาที่เอื้ออำนวย และการส่งมอบเรือคอนเทนเนอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเชื้อเพลิงคู่ขนาดใหญ่ที่ราบรื่น นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศถึงสัญญาใหม่มูลค่า 920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเรือ 22 ลำ ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน มีคำสั่งซื้อแล้วถึง 36 ลำ มูลค่า 1.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีกำหนดการส่งมอบระหว่างปี 2570 – 2572

ในเดือนกรกฎาคม DFI Retail Group รายงานการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานหลักที่ 39% ในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเป็นผลจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของกลุ่มสุขภาพและความงาม, ส่วนรายได้จากบริษัทร่วมที่สูงขึ้น และการปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอให้เรียบง่ายขึ้น นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ ยังได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปีเป็น 250–270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งแรกในรอบ 18 ปี ที่ 44.30 เซนต์สหรัฐต่อหุ้น พร้อมทั้งการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 3.50 เซนต์สหรัฐ

สำหรับครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 CDL รายงานรายได้จำนวน 1.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และกำไรหลังหักภาษีเงินได้และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (PATMI) จำนวน 91.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากรายได้จากการพัฒนาทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 24.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ยอดขายที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ที่แข็งแกร่ง (มูลค่ายอดขายเพิ่มขึ้น 90.4% เป็น 2.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์) และการเร่งการหมุนเวียนเงินทุนให้เร็วขึ้น (มากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากสัญญาขายทรัพย์สินตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน) ทั้งนี้ การปิดการขายหุ้น 50.1% ของกลุ่มฯ ในโครงการพัฒนาแบบผสมผสาน (mixed-use) ที่ South Beach ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2568 คาดว่าจะช่วยเพิ่มกําไรจากการขายทรัพย์สินของกลุ่มฯ ได้ประมาณ 465.0 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ในบรรดาหุ้นในดัชนี STI หุ้น CDL ยังมียอดการเข้าซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเมื่อมองกว้างขึ้น ในบรรดาหุ้นเกือบ 100 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปรากฏว่า CDL อยู่ในอันดับที่สอง รองจาก iFAST Corporation เมื่อวัดตามยอดเข้าซื้อสุทธิต่อมูลค่าตามราคาตลาด

ตารางด้านล่างแสดงหุ้น 40 ตัวที่มีมูลค่าตามราคาตลาดอย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่มีการเข้าซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันสูงที่สุดเมื่อเทียบกับขนาดปัจจุบันในไตรมาส 3 ปี 2568 จนถึงวันที่ 10 กันยายน ในจำนวนนี้ มีหุ้นในดัชนี STI 12 ตัว และหุ้นนอกดัชนี STI อีก 28 ตัว

หุ้น ชื่อย่อ มูลค่าตามราคาตลาด (S$M) ADT ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน

(S$M)

การเติบโต ADT ตั้งแต่ 30มิถุนายน NIF ตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน (S$M) สัดส่วน NIF ต่อมูลค่าตามราคาตลาด ตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน TR ตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน(%) NIF

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (S$M)

TR ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (%) อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี

(เท่า)

ภาคธุรกิจ
IFAST AIY 2,635 11 53% 115.2 4.4% 32 98 18 7.6 เทคโนโลยี

(ฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์)

CityDev C09 6,064 11 24% 190.7 3.1% 29 160 33 0.7 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
Frasers HTrust ACV 1,367 2 -6% 27.3 2.0% 1 46 23 1.1 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Venture V03 3,943 8 0% 65.9 1.7% 22 -44 11 1.4 เทคโนโลยี

(ฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์)

China Aviation G92 1,204 1 125% 16.6 1.4% 53 15 59 0.9 อุตสาหกรรม
PropNex OYY 1,783 2 157% 20.2 1.1% 128 19 174 14.3 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
UOB Kay Hian U10 2,568 2 72% 29.0 1.1% 25 22 66 1.2 บริการทางการเงิน
Lendlease Reit JYEU 1,529 3 23% 16.6 1.1% 24 -8 21 0.7 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
YZJ Fin Hldg YF8 3,758 15 -1% 39.9 1.1% 46 204 173 1.0 บริการทางการเงิน
Suntec Reit T82U 3,912 8 11% 37.7 1.0% 19 70 18 0.6 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
UOL U14 6,251 11 35% 60.0 1.0% 20 85 48 0.5 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
Seatrium Ltd 5E2 7,982 36 -11% 76.2 1.0% 16 93 14 1.2 อุตสาหกรรม
Yanlord Land Z25 1,432 2 24% 13.4 0.9% 47 2 11 0.2 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
Keppel BN4 15,675 31 11% 130.5 0.8% 16 260 30 1.5 อุตสาหกรรม
YZJ Shipbldg SGD BS6 12,635 62 1% 103.9 0.8% 43 -96 12 2.5 อุตสาหกรรม
SBS Transit S61 1,009 0 10% 7.0 0.7% 19 3 48 1.5 อุตสาหกรรม
Jardine C&C C07 10,768 5 -5% 55.9 0.5% 13 -14 2 1.0 สินค้าฟุ่มเฟือย
Keppel Reit K71U 3,870 7 2% 20.1 0.5% 16 -13 22 0.8 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Riverstone AP4 1,143 3 10% 5.6 0.5% 15 -30 -25 2.6 การดูแลสุขภาพ
HPH Trust USD NS8U 2,290 1 1% 10.5 0.5% 22 22 36 0.6 อุตสาหกรรม
Genting Sing G13 9,250 24 8% 42.2 0.5% 10 2 6 1.1 สินค้าฟุ่มเฟือย
CapLand India T CY6U 1,543 3 7% 7.0 0.5% 12 -25 14 0.9 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Food Empire F03 1,337 1 30% 5.8 0.4% 34 0 163 3.2 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
Hong Leong Asia H22 1,795 2 86% 7.4 0.4% 51 29 173 1.8 สินค้าฟุ่มเฟือย
Haw Par H02 3,174 2 20% 13.0 0.4% 21 -18 44 0.8 การดูแลสุขภาพ
Raffles Medical BSL 1,903 2 -3% 6.5 0.3% 2 22 22 1.8 สินค้าฟุ่มเฟือย
Bumitama Agri P8Z 1,986 1 75% 6.7 0.3% 53 0 44 1.8 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
CapLand China T AU8U 1,374 2 5% 4.2 0.3% 16 -7 18 0.7 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
DFIRG USD D01 5,660 3 8% 16.8 0.3% 36 24 68 7.0 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
SATS S58 4,873 15 -2% 13.2 0.3% 8 -181 -9 1.9 อุตสาหกรรม
Singel Z74 71,822 97 -5% 176.5 0.2% 17 749 45 2.8 โทรคมนาคม
JMH USD J36 22,278 16 9% 4.6 0.2% 24 106 51 0.6 อุตสาหกรรม
GuocoLand F17 2,343 0 240% 5.1 0.2% 32 5 36 0.5 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
The Hour Glass AGS 1,445 0 20% 3.1 0.2% 9 6 36 1.4 สินค้าฟุ่มเฟือย
ESR REIT 9A4U 2,298 2 50% 4.9 0.2% 21 20 18 0.9 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
OUE REIT TS0U 1,874 1 20% 3.9 0.2% 17 2 28 0.6 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Hong Leong Fin S41 1,167 0 58% 2.4 0.2% 2 3 11 0.6 บริการทางการเงิน
SIA Engineering S59 3,506 2 17% 7.2 0.2% 1 28 35 2.0 อุตสาหกรรม
HongkongLand USD H78 17,779 19 5% 34.3 0.2% 11 86 50 0.5 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)
Wing Tai W05 1,103 0 43% 1.1 0.1% 8 1 12 0.4 อสังหาริมทรัพย์ (ยกเว้น REIT)

ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow), TR หมายถึง ผลตอบแทนรวม; ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน 2568

iFAST ณ ปีที่ 25: หนึ่งในสี่ศตวรรษของการเติบโตและความมุ่งมั่นสู่ระดับโลก

วันนี้นับเป็นปีที่ 25 ของ iFAST นับตั้งแต่การก่อตั้ง แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการธนาคารและการบริหารความมั่งคั่งระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์แห่งนี้มีพันธกิจในการสร้างโมเดลธุรกิจระดับโลก โดยมีระบบนิเวศที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2543 เป็นรากฐาน นับตั้งแต่การจดทะเบียนเข้าตลาดในเดือนธันวาคม 2557 หุ้นของบริษัทได้สร้างผลตอบแทนรวมเฉลี่ยต่อปีที่ 25.2%

ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม iFAST รายงานถึงทรัพย์สินภายใต้บริการการบริหารจัดการ (AUA) ว่าอยู่ที่ 27.20 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568 และมีกำไรก่อนหักภาษีในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2568 อยู่ที่ 50.4 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 32.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2568 iFAST ยังคงมีงบดุลที่แข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 821.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งสนับสนุนโดยอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 24.6%

คณะกรรมการของบริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่สองที่หุ้นละ 0.02 ดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งมีการปิดสมุดทะเบียนปันผลเมื่อวันที่ 6 ส.ค. และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลทั้งปีอย่างน้อยหุ้นละ 0.08 ดอลลาร์สิงคโปร์ ทางกลุ่มฯ คาดว่ารายได้รวมและความสามารถในการทำกำไรในครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2568 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจหลักด้านการบริหารความมั่งคั่ง, iFAST Global Bank (iGB) รวมถึงความคืบหน้าในการเริ่มใช้งานระบบ eMPF ของแผนก ePension

กระแสการเติบโตของธนาคารดิจิทัล: iGB ประกาศผลกำไร พร้อมขยายศักยภาพข้ามพรมแดน

iGB ธนาคารในสหราชอาณาจักรของ iFAST ทำกำไร 1.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2568 พลิกจากการขาดทุน 3.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2567 หลังจากเริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2567 ทางกลุ่มฯ ได้เข้าซื้อกิจการธนาคารสหราชอาณาจักรที่มีใบอนุญาตเต็มรูปแบบนี้ในเดือนมีนาคม 2565 และมุ่งไปที่สร้างธุรกิจการธนาคารดิจิทัล (digital transaction banking) และการบูรณาการให้เข้ากับระบบนิเวศของกลุ่มฯ โดยทันที ด้วยแรงหนุนจากการขยายฐานลูกค้าและการรับฝากเงินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินฝากของลูกค้าของ iGB โตขึ้น 177.9% ในปี 2567 อยู่ที่ 593.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์) และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 828.7 ล้านปอนด์ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568 นอกจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้นแล้ว รายได้สุทธิของ iGB ยังได้รับแรงหนุนจากรายได้ค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่ง ซึ่งโตขึ้น 81.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2568

หน่วยธุรกิจนี้ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธนาคารดิจิทัลสำหรับลูกค้าบุคคล (Digital Personal Banking – DPB), ธนาคารดิจิทัลด้านธุรกรรม (Digital Transaction Banking – DTB) และแพลตฟอร์ม EzRemit โดย EzRemit เป็นธุรกิจโอนเงินของ iGB และให้บริการการโอนเงินสำหรับพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นธุรกิจด้วยกันเอง (B2B) โดยถูกขยายและผสานเข้ากับแอปพลิเคชัน iGB สำหรับลูกค้า DPB ในปี 2567 EzRemit ให้บริการโซลูชันการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบครบวงจรสำหรับการโอนเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่า 20 สกุลเงิน พร้อมระบบจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และการจัดเส้นทางการจ่ายเงินที่ยืดหยุ่น

ทางกลุ่มฯ ระบุเมื่อเดือนเมษายนว่า iGB ไม่ได้เผชิญกับข้อจำกัดด้านกฎเกณฑ์หรือข้อจำกัดภายในต่อการเติบโตของเงินฝาก และในฐานะที่เป็นธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบ จึงสามารถขยายธุรกิจได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการมีธนาคารสาขา และทางกลุ่มฯ เสริมว่า ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศด้าน FinTech ของกลุ่มฯ iGB ตั้งเป้าที่จะปรับใช้นวัตกรรมและระบบอัตโนมัติเพื่อลดต้นทุน เพิ่มความเหนียวแน่นของลูกค้า และขยายธุรกิจไปทั่วโลกนอกเหนือจากตลาดสหราชอาณาจักร ในขณะเดียวกัน iFAST กล่าวว่า การควบคุมความเสี่ยงของ iGB จะมุ่งเน้นที่เงินทุน สภาพคล่อง และความเสี่ยงด้านตลาด เพื่อให้มั่นใจว่าเงินฝากจะถูกลงทุนภายในขีดจำกัดความไม่ตรงกัน (mismatch limit) ที่กำหนดไว้ในด้านสกุลเงิน ระยะเวลา และราคา เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนด

ในอนาคตข้างหน้า –อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลง เศรษฐกิจที่แข็งแรง และความเสี่ยงด้านภาษี: การรักษาสมดุลของสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 3

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศ อุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และภาคการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยได้สนับสนุนการเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน แต่แรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางการค้าชี้ให้เห็นว่าครึ่งหลังของปี 2567 อาจชะลอตัวลง

อัตราเฉลี่ยดอกเบี้ยข้ามคืนแบบทบต้นของสิงคโปร์ (SORA) 3 เดือน ลดลงจาก 2.06% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เหลือ 1.54% ในปัจจุบัน รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคมระบุว่ากิจกรรมการผลิตสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยในไตรมาส 3 ปี 2568 ขณะที่ข้อมูลเบื้องต้นจากรายงานสถิติรายเดือนของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) แสดงถึงยอดเงินฝากของภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และการกู้เงินที่เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับรายงาน Macroeconomic Review เดือนกรกฎาคม 2568 ที่ระบุว่า GDP ของครึ่งปีแรกของปี 2568 แข็งแกร่งกว่าที่คาด แต่ก็อาจชะลอลงจากแรงกดดันทั่วโลก โดยในทิศทางเดียวกัน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสิงคโปร์ที่จัดทำโดย S&P Global ของเดือนสิงหาคมยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว แต่ปรับตัวลงเนื่องจากภาษีนำเข้าของสหรัฐและความไม่แน่นอนทางการค้าได้ชะลอคำสั่งซื้อและการผลิต รายงานการส่งออกในประเทศ (ไม่รวมสินค้าเกี่ยวกับน้ำมัน) หรือ NODX เดือนกรกฎาคมที่ -4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือว่าดีกว่าประมาณการของ UOB ที่คาดว่าจะหดตัว -5.0% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม UOB ยังคงมุมมองการชะลงตัวลงในครึ่งหลังของปี 2568 อันเป็นผลสะท้อนจากการเร่งส่งออกในช่วงก่อนหน้า โดยภาษีตอบโต้จากสหรัฐมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามากกว่าภาคการผลิต

ขณะที่ความแข็งแกร่งของอุปสงค์ภายในประเทศและความไม่แน่นอนด้านการค้ายังคงเป็นประเด็นสำคัญ แต่ความสนใจของนักลงทุนกลับเริ่มหันไปที่หุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง สภาพการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางมาตรการที่มุ่งพัฒนาสภาพคล่องและการประเมินมูลค่าตลาด ซึ่งเป็นการเน้นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้นในเชิงรุก แม้ว่าดัชนี STI ได้สร้างผลตอบแทนรวมถึง 11.5% ในไตรมาส 3 ปี 2568 จนถึงวันที่ 10 กันยายน แต่ก็ยังถูกแซงหน้าโดยดัชนี FTSE ST Mid & Small Cap ที่มีผลตอบแทนรวมที่ 15.0%, ดัชนี FTSE ST Fledgling ที่มีผลตอบแทนรวมที่ 19.8% และดัชนี FTSE ST Catalist ที่มีผลตอบแทนรวมที่ 20.1%

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *