01 Apr 2025 | Category: Market Updates

  • ในไตรมาสแรกของปี 2568 ดัชนี Stratis Times (STI) มีกำไร 9% แตะ 3,972.43 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลแล้ว ผลตอบแทนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.3% เทียบเท่ากับอัตราผลตอบแทนที่เห็นในปี 2567 สำหรับนักลงทุนที่ใช้แพลตฟอร์ม Fintech อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) สำหรับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ในกองทุน ETF ที่อยู่ในดัชนี Straits Times (STI) รายเดือนอยู่ที่ 6.8% ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นอัตรานี้ตั้งแต่สิ้นปี 2562
  • ST Engineering ขึ้นนำในดัชนี STI ในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยมีการปรับตัวขึ้น 46% หุ้นตัวนี้ได้รับการปรับเพิ่มอันดับอย่างมีนัยสำคัญจากนักวิเคราะห์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยประมาณการของราคาเป้าหมาย 12 เดือน เพิ่มขึ้น 36% จาก02 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 6.85 ดอลลาร์สิงคโปร์ นอกจากนี้ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของไตรมาสแรกปี 2568 ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากระดับในปี 2567 ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมียอดซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันสูงที่สุดเป็นอันดับที่สองในไตรมาส
  • ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ในจำนวนหน่วยลงทุนสุทธิมูลค่า 36 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์นั้น มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร (AUM) ของกองทุนรวม (ETF) สองกองที่อิงดัชนี Straits Times เพิ่มขึ้นจาก3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 2.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีการเปิดตัวกองทุน Lion-CM CSI Dividend Index ETF ในขณะที่กองทุน ETF ที่เดิมชื่อ United SSE 50 Index ETF ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และปัจจุบันอิงอยู่กับดัชนี FTSE China A50

ในวันทำการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาสแรกของปี 2568 ดัชนี Straits Times (STI) ได้ทะลุ 4,000 ในช่วงหนึ่ง เป็นการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,005.18 ดัชนี STI ใช้เวลาเกือบสองปีครึ่งในการขยับจากการแกว่งตัวอยู่ใกล้ระดับ 3,000 ในเดือนตุลาคม 2564 ไปสู่การทะลุระดับ 4,000 ในเดือนมีนาคม 2568 สำหรับนักลงทุนที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Fintech อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) สำหรับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA) ในกองทุน ETF ที่อยู่ในดัชนี STI รายเดือนอยู่ที่ 6.8% ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นอัตรานี้ตั้งแต่สิ้นปี 2562 และหากเทียบกับตอนที่กองทุน ETF ที่อิงดัชนี STI เหล่านี้อยู่ใกล้ระดับ 4,000 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 แล้ว ในตอนที่กองทุน ETF ที่อิงดัชนี STI อยู่ใกล้ระดับ 3,000 ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2567 ความเคลื่อนไหวของดัชนี STI ในแต่ละเดือน หมายถึง จะมีการซื้อหน่วยลงทุนมากขึ้น 25%

นักเศรษฐศาสตร์ประมาณการว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะโตขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 หลังจากที่มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัว (GDP) 4.4% ในปี 2567 ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 4.9% ในดัชนี STI ในไตรมาสแรกของปี 2568 เป็นการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นที่ต่อเนื่องมาจากปี 2567 ซึ่งมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 19.8% การจ่ายเงินปันผลช่วยเพิ่มผลตอบแทนรวมของดัชนีให้เป็น 5.3% ในไตรมาสแรกของปี 2568 และ 24.3% ในปี 2567

ในไตรมาสแรกของปี 2568 สำหรับดัชนี STI มีหุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้น 22 ตัว และหุ้นที่ราคาตกลง 8 ตัว ธนาคารอันดับใหญ่ได้รับการจัดอันดับหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในไตรมาสเป็นอันดับที่ 8, 14 และ 18 เทียบกับที่เคยติดอันดับ 5 อันดับแรกของหุ้นในดัชนี STI ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดในปี 2567 โดยธนาคารทั้งสามแห่งที่อยู่ในดัชนี STI ยังคงมีสัดส่วน 54% ของดัชนีฯ ในไตรมาสแรกของปี 2568 หลังจากที่สัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 47% เป็น 54% ในปี 2567

หุ้น 5 ตัวในดัชนี STI ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในไตรมาสที่หนึ่งปี 2568 ปรากฏตามตารางด้านล่างนี้

หุ้นใน STI 5 ตัวที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดสำหรับ
1Q ปี 2568

ชื่อย่อ

ผลตอบแทนรวม สำหรับ1Q ปี 2568 (%) ADT สำหรับ
1Q ปี 2568 (S$M)
NIF สำหรับ
1Q ปี 2568
(S$M)
ผลตอบแทนรวม ปี 2567 (%) ADT
ปี 2567 (S$M)

NIF
ปี 2567 (S$M)

ภาคธุรกิจ
ST Engineering

S63

46 42 141 24 19

219

อุตสาหกรรม
Sembcorp Ind

U96

15 22 79 7 17

87

สาธารณูปโภค
UOL

U14

15 8 10 -15 9

-136

อสังหาริมทรัพย์

(ยกเว้น REIT)

Singtel

Z74

11 77 167 32 90

826

โทรคมนาคม
CapLand IntComT

C38U

11 51 26 0 49

-182

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)

ข้อมูลทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX) และ Refinitiv

หมายเหตุ: : ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow)

 

ST Engineering

ตามรายละเอียดในตารางด้านบน ST Engineering ขึ้นนำหุ้นอื่น ๆ ในดัชนี STI โดยมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 45.7% เป็น 6.79 ดอลลาร์สิงคโปร์ หุ้นตัวนี้ได้รับการปรับเพิ่มประมาณการอย่างมากในปีนี้ โดยประมาณการราคาเป้าหมายในช่วง 12 เดือน เพิ่มขึ้น 36% จาก 5.02 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 6.85 ดอลลาร์สิงคโปร์ บริษัทฯ ยังคงรักษาผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ที่แข็งแกร่งที่ 26% ไว้ได้ โดยมีรายได้ของปีงบประมาณ 2567 เพิ่มขึ้น 12% และกําไรที่สามารถจัดสรรได้เพิ่มขึ้น 20% ในปัจจุบัน ยอดสั่งซื้อหุ้นของ ST Engineering อยู่ที่ 28.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และคาดว่าจะมีการส่งมอบหุ้นสำหรับยอด 8.8 พันล้านดอลาร์สิงคโปร์ในปี 2568 Middle River Aerostructure Systems (MRAS) ซึ่งเป็นโรงงานขนาด 2 ล้านตารางฟุต บนพื้นที่ 180 เอเคอร์ในรัฐแมริแลนด์ ที่จัดหาและสนับสนุนผลิตภัณฑ์สําหรับผู้ผลิตเครื่องยนต์ ผู้ผลิตเครื่องบิน และผู้ดำเนินการบิน และเป็นส่วนสําคัญของเครือข่ายสิ่งอํานวยความสะดวกและสํานักงานด้านการบินและอวกาศทั่วโลก มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADT) ของหุ้นนี้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 มีมูลค่ามากกว่าสองเท่าของระดับในปี 2567

การซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันไตรมาสที่ 1 ปี 2568

หุ้น 30 ตัวในดัชนี STI มียอดขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันถึง 1.63 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของยอดขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันจำนวน 1.66 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากทั่วทั้งตลาดหุ้นสิงคโปร์ ยอดขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันหลักมาจากหุ้นธนาคารทั้งสามแห่งในดัชนี STI และภาค S-REIT สัดส่วนตามมูลค่าตามราคาตลาดรวมของแต่ละภาคธุรกิจ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2568 ธนาคารทั้งสามแห่งในดัชนี STI, ภาค S-REITs และภาคเทคโนโลยี มีการขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันในระดับใกล้เคียงกัน ดังที่แสดงในภาพด้านล่าง

Picture1

ข้อมูลทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX) และ Refinitiv

หมายเหตุ: : ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow)

รายละเอียดทั้งหมดของผลการดำเนินงานของหุ้นในดัชนี STI, ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน และมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน พร้อมการเปรียบเทียบกับปี 2567 แสดงตามตารางด้านล่างนี้

หุ้นในดัชนี  STI เรียงตามผลตอบแทนสูงสุดในไตรมาส 1 ปี 2568

ชื่อข่อ

ผลตอบแทนรวม สำหรับ1Q ปี 2568 (%) ADT สำหรับ
1Q ปี 2568 (S$M)
NIF สำหรับ
1Q ปี 2568
(S$M)
ผลตอบแทนรวม ปี 2567 (%) ADT
ปี 2567 (S$M)

NIF
ปี 2567 (S$M)

ภาคธุรกิจ
ST Engineering S63 46 42 141 24 19 219 อุตสาหกรรม
Sembcorp Ind U96 15 22 79 7 17 87 สาธารณูปโภค
UOL U14 15 8 10 -15 9 -136 อสังหาริมทรัพย์

(ยกเว้น REIT)

Singtel Z74 11 77 167 32 90 826 โทรคมนาคม
CapLand IntCom T C38U 11 51 26 0 49 -182 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Wilmar Intel F34 8 16 47 -9 16 -135 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
CapLand Ascendas REIT A17U 7 33 -42 -10 33 -312 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
DBS D05 6 207 -678 53 163 120 บริการทางการเงิน
SGX S68 6 36 22 34 22 313 บริการทางการเงิน
JMH USD J36 6 12 25 9 15 26 อุตสาหกรรม
SIA C6L 5 33 215 6 35 -544 อุตสาหกรรม
Mapletree PanAsiaCo Trust N2IU 5 14 -22 -18 22 -161 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
DFIRG USD D01 5 2 -6 4 2 -8 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
UOB U11 5 98 -208 35 85 552 บริการทางการเงิน
Mapletree Log Trust M44U 5 24 13 -22 31 -259 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
CapitaLandInvest 9CI 5 28 -113 -13 27 -203 บริการทางการเงิน
Frasers L&C Trust BUOU 4 13 -20 -18 14 -168 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
OCBD Bank O39 4 100 -591 37 80 425 บริการทางการเงิน
Frasers Cpt Trust J69U 3 9 -49 -1 8 -73 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Seatrium Ltd 5E2 2 52 7 -12 53 -19 อุตสาหกรรม
Keppel BN4 1 22 -27 2 24 44 อุตสาหกรรม
HongkongLand USD H78 -1 16 -12 42 14 19 อสังหาริมทรัพย์

(ยกเว้น REIT)

CityDev C09 -2 8 -39 -22 14 -257 อสังหาริมทรัพย์

(ยกเว้น REIT)

Genting Sing G13 -2 23 -40 -20 25 -241 สินค้าฟุ่มเฟือย
ThaiBev Y92 -3 11 8 8 16 70 สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน
Mapletree Ind Trust ME8U -3 21 -157 -7 14 -150 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
Venture V03 -6 9 -70 2 10 37 เทคโนโลยี
Jardine C&C C07 -7 7 -41 1 16 -7 สินค้าฟุ่มเฟือย
SATS S58 -15 17 -161 34 16 164 อุตสาหกรรม
YZJ Shipbldg SGD BS6 -21 74 -114 108 54 174 อุตสาหกรรม

ข้อมูลทั้งหมด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX) และ Refinitiv

หมายเหตุ: : ADT หมายถึง มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Turnover), NIF หมายถึง ยอดซื้อขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบัน (Net Institutional Flow)

ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 และหลังจากนั้น

หากความเสี่ยงขาขึ้นและขาลงของตลาดในปัจจุบันเป็นไปในทิศทางเดียวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโดยรวม ผลการดำเนินงานของหุ้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงขาลง เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น การเติบโตที่ชะลอตัวของจีน และการฟื้นตัวจากภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ในด้านความเสี่ยงขาขึ้น การเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นของจีน วงจรการฟื้นตัวของเทคโนโลยีที่ต่อเนื่อง และความตึงเครียดทางการค้าที่เบากว่าที่คาดการณ์ไว้อาจก่อให้เกิดการพัฒนาเชิงบวกเกิดขึ้น สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำหนักสัมพัทธ์ของความเสี่ยงเหล่านี้ กรุณาดูที่บทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เดือนมีนาคม 2568 ที่นี่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *