สุภาษิตภาษาละติน “Acta non verba” – หรือ “การกระทําไม่ใช่คําพูด” – เป็นคติพจน์หนึ่งของ Chris Lim ผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ นี้เป็นสิ่งที่สนับสนุนปรัชญาของเขาในการเป้นผู้นำ โดยเป็นแบบอย่างในการจัดการการดําเนินงานของ CNMC Goldmine Holdings Ltd ที่จดทะเบียนใน SGX
“การเป็นผู้นําและเป็นแบบอย่างเป็นสิ่งที่เราปลูกฝังลําดับชั้นขององค์กรทั้งหมดที่ CNMC” Lim วัย 48 ปีประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัทกล่าว
“ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหาร C-suite หรือผู้นําของทีมขนาดเล็กเราคาดหวังให้คุณแนะนําผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของคุณผ่านการกระทําของคุณและวิธีที่คุณดําเนินการด้วยตัวเอง”
“เนื่องจากการกระทำสำคัญกว่าคําพูด วิธีการนี้มีความเกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับธุรกิจเช่นของเราซึ่งเราต้องทําให้มือของเราเปรอะเปื้อน – อย่างแท้จริง”
การรับฟังความคิดเห็นจากมุมมองต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ มีความรับผิดชอบมากกว่าการจับผิด และให้เครดิตเมื่อถึงเวลา ยังเป็นองค์ประกอบสําคัญที่กําหนดสไตล์ความเป็นผู้นําของ Lim
“ผู้บริหารระดับสูงของ CNMC เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายเสมอ ไม่เพียงแต่จากผู้ถือหุ้นของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงาน ซัพพลายเออร์ ที่ปรึกษาภายนอก และทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมในธุรกิจของเราด้วย”
“ในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เราคํานึงถึงภาระหน้าที่ของเราที่มีผลต่อผู้มีส่วนได้เสียของเรา ความคิดเห็นของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือลบนั้นคุ้มค่าที่จะรับฟังเสมอเนื่องจากการสนับสนุนและความเข้าใจของพวกเขาสามารถไปได้ไกลในการช่วยให้เราไปถึงจุดที่เราต้องการไปในฐานะธุรกิจ”
อันที่จริงตลอดการเดินทาง 16 ปีของ CNMC – มันเริ่มดําเนินการในปี 2006 – มีไฮไลท์ความท้าทายและบทเรียนมากมายที่ได้เรียนรู้ Lim กล่าว
“การผลิตทองคําแท่งแรกของเราในปี 2010 – เป็นก้าวสําคัญสําหรับเราอย่างไม่ต้องสงสัย เราใช้เวลาประมาณสี่ปีในการบรรลุเป้าหมายนี้”
“การจดทะเบียนใน SGX ของเราในปี 2011 เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในประวัติศาสตร์ของเรา เนื่องจากเป็นการเพิ่มทุนที่จําเป็นมากในการพัฒนาธุรกิจเหมืองแร่ทองคําของเราและยกระดับไปอีกขั้น”
“สิ่งนี้ทําให้เราสามารถสร้างผลกําไรได้ทุกปีตั้งแต่ปี 2012 ยกเว้นปี 2020 เมื่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขัดขวางการดําเนินงานของเราอย่างรุนแรง”
เอาชนะอัตราต่อรอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย “การขุดเป็นการใช้เงินทุนสูงพร้อมกับความเสี่ยงมากมาย และไม่มีการรับประกันความสําเร็จไม่ว่าแผนการจะเป็นอย่างไร”
“มีหลายสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม เช่นสภาพอากาศ, องค์ประกอบทางธรณีวิทยา, และราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถูกขุด ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเคยพบมาจนถึงตอนนี้น่าจะเป็นการระบาดใหญ่” ที่มีมาตรการล็อคดาวน์ที่หลากหลายและข้อ จํากัด การเดินทางต้องบังคับให้ CNMC หยุดการดําเนินงานเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในแต่ละช่วงสองปีที่ผ่านมา
แต่ก็อย่างที่บอกในฐานะนักปรัชญาชาวเยอรมัน Friedrich Nietzsche ตามสำนวนที่ว่า: “สิ่งที่ไม่ฆ่าฉันทําให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น”
“สําหรับความท้าทายทั้งหมดที่เราพบในประวัติศาสตร์ของ CNMC ประเด็นหลักสําหรับเราคือวิธีที่เราสามารถทําให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป” Lim กล่าว “หากบางสิ่งบางอย่างไม่ถูกต้อง ให้ทุกคนทํางานเพื่อแก้ไขมันให้ถูก และพยายามอย่าให้สิ่งที่เคยผิดพลาด เกิดขึ้นซ้ำอีก”
CNMC ก่อตั้งขึ้นโดยศาสตราจารย์ Lin Xiang Xiong เป็น บริษัท เหมืองแร่ทองคําแห่งแรกที่จดทะเบียนใน SGX Catalist ในเดือนตุลาคม 2011 มีสํานักงานใหญ่ในสิงคโปร์ กลุ่มบริษัทมีส่วนร่วมในการสํารวจและขุดทอง และการแปรรูปแร่ที่ขุดเป็นทองคำแท่ง (gold doré bars)
เรามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการ Sokor Gold Field ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ Kelantan ประเทศมาเลเซีย ครอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตร โครงการได้ระบุพื้นที่ฝากทองคําห้าแห่งได้แก่ Manson’s Lode, New Discovery, New Found, Sg Ketubong and Rixen.
ด้วยการมุ่งเน้นเริ่มต้นที่หลุมเปิด – หรือพื้นผิว – การทําเหมืองแร่ CNMC ได้ขยายไปสู่การทําเหมืองใต้ดินซึ่งช่วยให้กลุ่มสามารถสกัดแร่ทองคําเกรดสูงกว่า
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 โครงการ Sokor Gold Field มีทรัพยากรทองคําที่สอดคล้องกับ JORC (รวมปริมาณสํารองแร่) 18.16 ล้านตันที่เกรด 1.5 กรัม / ตันในการวัด ประเภทที่ระบุและอนุมานรวมเป็น 890,000 ออนซ์ โครงการประสบความสําเร็จในการเททองครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2010 ในปี 2017 กลุ่มบริษัทได้เข้าซื้อกิจการเหมืองแร่สองแห่งใน Kelantan – บราวน์ฟิลด์การทําเหมืองแร่ CNMC Pulai และกรีนฟิลด์เหมืองแร่ Kelgold
ในวันสิ้นปีเมื่อ 31 ธันวาคม 2021 ผู้ผลิตทองคําได้กําไรเพิ่มขึ้น 1.72 ล้านเหรียญสหรัฐจากผู้ถือหุ้น โดยพลิกกลับจากรายการขาดทุน 3.54 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณ 2020 การฟื้นตัวเกิดขึ้นเมื่อปีงบประมาณ 2021 รายได้เพิ่มขึ้น 38% เป็น 32.88 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินทรัพย์การทําเหมืองแร่ที่หลากหลาย
เพื่อกระตุ้นการเติบโตในระยะยาว CNMC กําลังสร้างโรงงานทําเหมืองใต้ดินอีกสองแห่งที่โครงการ Sokor gold ซึ่งเป็นเรือธง เหมืองใต้ดินเหล่านี้จะช่วยให้กลุ่มสามารถสกัดแร่ทองคําเกรดสูงกว่าสําหรับการแปรรูปที่โรงงานคาร์บอน (CIL)
“โรงงาน CIL ของเราเปิดดําเนินการมานานกว่า 4 ปีแล้ว และสามารถขยายเพื่อรองรับแร่ได้ถึง 1,000 ตันต่อวันจาก 500 ตันในปัจจุบัน” Lim กล่าว “เรามีทางเลือกในการเพิ่มความสามารถในการแปรรูปของโรงงานเมื่อโรงงานใต้ดินสามารถรักษาผลผลิตการผลิตที่ประมาณ 1,000 ตันต่อวัน”
กลุ่มบริษัทกําลังจะเริ่มต้นการทดลองผลิตตะกั่วและสังกะสี “เราวางแผนเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว และใกล้จะสามารถกระจายพอร์ตโฟลิโอของสินทรัพย์การทําเหมืองแร่ของเรานอกเหนือจากทองคําเพื่อรวมโลหะเหล่านี้ได้” Lim กล่าวเสริม
“เรากําลังตกแต่งให้กับโรงงานลอยน้ำที่ Sokor ซึ่งสามารถแปรรูปแร่ที่มีตะกั่วและสังกะสีได้ประมาณ 550 ตันเราคาดว่าจะเริ่มทดลองผลิตโลหะเหล่านี้ในไตรมาสที่สองของปีนี้ ยกเว้นมีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด”
ในขณะที่การแพร่ระบาดยังคงเป็นที่น่าเป็นห่วง Lim ยังคงมองโลกในแง่ดี “มาเลเซียอยู่ในตําแหน่งที่ดีกว่าในการจัดการกับ COVID-19 ในขณะนี้เมื่อเทียบกับหนึ่งหรือสองปีที่ผ่านมา”เขากล่าว
“เหนือสิ่งอื่นใดผมคิดว่าการแพร่ระบาดได้ตอกย้ำความจําเป็นสําหรับ บริษัท ที่ต้องมีแผนฉุกเฉินตลอดเวลา สิ่งนี้ต้องการให้เจ้าของธุรกิจ – รวมถึงเราด้วย – มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและสม่ำเสมอในการวางแผนสําหรับหลายสถานการณ์เพื่อให้พวกเขาสามารถเตรียมพร้อมให้มากที่สุดสําหรับเหตุฉุกเฉินใด ๆ ” เขากล่าวเสริม
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง COVID-19 ได้ยกระดับความสําคัญของความคิดนี้และความจําเป็นในการว่องไวเสมอเพื่อให้เราสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ที่เราอยู่”
ในขณะเดียวกันกลุ่มบริษัทยังคงต่อสู้กับความท้าทายของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น “เหมืองของเราขับเคลื่อนด้วยเครื่องกําเนิดไฟฟ้าดีเซล และด้วยการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานทั่วโลก, ดีเซลได้กลายเป็นราคาที่แพงมากขึ้น ในขณะที่เรายังคงสามารถรับมือกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ เราตั้งใจที่จะติดตั้งสายส่งไฟฟ้าที่ Sokor ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว”
นอกจากนี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมผลผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตสําหรับทองคําทุกออนซ์ที่มาจากโรงงานแปรรูป
“เรายังคงมีอัตรากําไรที่เป็นที่น่าพอใจเนื่องจากราคาทองคําในปัจจุบันยังคงสูงขึ้น และอยู่ไม่ไกลจากราคาสูงสุดตลอดกาลของพวกเขา” Lim กล่าว “แต่เมื่อราคา spot prices – ซึ่งกําหนดราคาขายของเรา – ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเรา เราต้องมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มผลผลิตเพื่อให้มีรายได้ที่สูงขึ้น จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อออนซ์อาจลดลง”
นอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นแล้ว CNMC ยังดําเนินการตามเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อย่างแข็งขัน
“เราปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น และมีส่วนร่วมกับที่ปรึกษาอิสระที่ได้รับอนุญาตเพื่อดําเนินการตรวจสอบในสถานที่เป็นประจําที่ Sokor เพื่อให้แน่ใจว่าการดําเนินงานของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด” Lim กล่าว
“เราติดตาม เช่นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเราอย่างใกล้ชิด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดของเราในปีงบประมาณ 2020 ลดลงเกือบ 13% จากปีก่อนเป็น 20,121 ตัน ในแง่ของการจัดการน้ำเราทําให้มันเป็นจุดที่จะรีไซเคิลน้ำและแม้กระทั่งบําบัดน้ำเสียก่อนที่จะปล่อยมันดังนั้นจึงไม่มีความเสี่ยงต่อชุมชนท้องถิ่นและระบบนิเวศที่ Sokor”เขากล่าวเสริม
“สรุปแล้วเราภูมิใจที่จะบอกว่าเราไม่ได้ตกหล่นอะไรในทางที่สําคัญใด ๆ ในแง่ของผลกระทบที่เราทิ้งไว้ต่อสิ่งแวดล้อม”
CNMC Goldmine Holdings Ltd
CNMC เป็น บริษัท เหมืองแร่ทองคํารายแรกที่จดทะเบียนใน Catalist บน SGX มีสํานักงานใหญ่ในสิงคโปร์ กลุ่มบริษัทเริ่มดําเนินการในปี 2006 และมีส่วนร่วมในการสํารวจและขุดทองและการแปรรูปแร่ที่ขุดแล้วเป็นทองคำแท่ง กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการ Sokor Gold Field ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ Kelantan ประเทศมาเลเซีย โครงการนี้คลอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่ฝากทอง 5 แห่ง คือ Manson’s Lode New Discovery, New Found, Sg. Ketubong and Rixen. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 โครงการ Sokor Gold Field มีทรัพยากรทองคําที่สอดคล้องกับ JORC (รวมปริมาณสํารองแร่) 18.16 ล้านตันที่เกรด 1.5 กรัม / ตัน ในการวัด ประเภทที่ระบุและอนุมานรวมเป็น 890,000 ออนซ์ โครงการประสบความสําเร็จในการเททองครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2010 นอกจากนี้บริษัทยังเป็นเจ้าของ CNMC Pulai Mining Sdn Bhd และ Kelgold Mining Sdn Bhd ซึ่งทั้งสองแห่งอยู่ใน Kelantan
เว็บไซต์บริษัท www.cnmc.com.hk