- ด้วยวิกฤตการณ์ยูเครนทำให้น้ําหนักตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ 23 ก.พ. SPDR Goldshares ETF ได้เห็นการหมุนเวียนมากที่สุดของ ETFs ที่จดทะเบียนไว้สําหรับการซื้อขายในสิงคโปร์ SPDR Gold shares ETF เพิ่มขึ้น 8% ของสกุลเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ SGD ตั้งแต่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา และปัจจุบันประกอบด้วย 11% ของ AUM จำนวน S$9 พันล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ที่ลงทุนใน 36 ETFs
- การเพิ่มขึ้น 8.4% ของราคาทองคํา ได้ชดเชยการลดลง 5.8% ใน STI ตั้งแต่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา SGX สําหรับการซื้อขาย ETF สองรายที่ติดตาม STI – SPDR Straits Times Index ETF และ Nikko AM Singapore STI ETF ซึ่งส่วนใหญ่มีน้ำหนักต่อภาคธนาคาร โดยภาคธุรกิจนี้อยู่ในกลุ่มหุ้นทั่วโลกที่อ่อนแอลงตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา
- ETF ทั้ง 36 กองทุนมีอัตราการไหลเข้าสุทธิเกือบ S$700 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ในปี 2022 จนถึงวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก iShares USD Asia High Yield Bond Index ETF. Nikko AM – Straits Trading MSCI China Electric Vehicles and Future Mobility ETF ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมและ Lion-Phillip S-REIT ETF ได้เห็นการไหลเข้าสุทธิสูงสุดต่อไป
เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ราคาทองคำปิดตลาดที่สูงกว่าระดับ US$2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ และปิดที่ระดับ US$2,045 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ที่เอเชียในวันนี้ ราคาทองคำมีการซื้อขายภายใน 2% ของเดือนสิงหาคม 2563 สูงสุดตลอดกาลที่ US$,2,072 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ราคาที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้เป็นผลมาจากประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรการส่งออกพลังงานของรัสเซีย ในขณะที่ทั้ง LBMA และ CME ได้ประกาศระงับการใช้ทองคําและเงินของรัสเซียในการส่งมอบสัญญา
ในสิงคโปร์ SPDR Gold ETF (รหัสหุ้น: O87 / GSD) เป็น ETF ที่มีการซื้อขายมากที่สุดโดยมูลค่าการซื้อขายในช่วง 10 sessions ที่ผ่านมา ด้วยราคาต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้น 8.4% ของสกุลเงินดอลล่าร์สิงคโปร์ SGD เนื่องจากราคาต่อหน่วยของ ETF มีแนวโน้มมาจาก US$176.78 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น US$189.11 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคําแท่งยังคงมีความสัมพันธ์ในระดับต่ำกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ส่วนใหญ่ สภาทองคําโลก (The World Gold Council) การรวมสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ต่ำซึ่งกันและกันจะช่วยผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอโดยรวม เป็นตัวอย่างทางการศึกษาที่อย่างง่าย พอร์ตโฟลิโอที่สมดุลอย่างเท่าเทียมกันของ ETF ทั้งสามกองทุนที่แต่ละตัวติดตามราคาทองคํา STI และผลการดําเนินงานของพันธบัตรรัฐบาลสิงคโปร์มีผลตอบแทนรวมเฉลี่ย 4.9% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ด้วยผลตอบแทนรวมเฉลี่ยของปี ตั้งแต่ -1.5% ในปี 2018 ถึง +10.2% ในปี 2019 หลังจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจุลภาคที่ดําเนินการในเดือนมกราคมปีนี้นักลงทุนสามารถซื้อขาย SPDR Gold ETF ในหน่วยเดียวโดยมีมูลค่าต่อการซื้อขายที่ประมาณ S$260 ดอลล่าร์สิงคโปร์ เมื่อซื้อขายผ่านเคาน์เตอร์ SGD (รหัสหุ้น: GSD)
จากจำนวนทั้ง 36 ETF, SPDR STI ETF ได้เห็นมูลค่าการซื้อขายสูงสุดครั้งต่อไปในช่วงวิกฤตยูเครน ในขณะที่กองทุน STI ETFs เริ่มต้นปีท่ามกลาง ETFs ที่มีผมประกอบการแข็งแกร่งที่สุด แต่ผลกระทบของวิกฤตการณ์ยูเครนต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯได้ส่งผลกระทบกับหุ้นธนาคาร ในช่วงสองสัปดาห์ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ความคาดหวังสําหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย FOMC ที่จะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสสงครามโดยคาดว่า ~ 60% ในวันที่ 14-15 ก.พ. สําหรับการปรับขึ้น 0.50% หรือ 50 Basis Point(bps) ที่ FOMC วันที่ 16 มีนาคม การแข่งขันใหม่ของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกแสดงให้เห็นโดยความผันผวนของตลาดรับ-ส่ง ได้เห็นความคาดหวังนี้ลดลงไปโดยไม่มีความคาดหวังสําหรับการปรับขึ้น 0.50% หรือ 50 bps ที่ 16 มีนาคม FOMC, กับความคาดหวังส่วนใหญ่ในขณะนี้ที่ 0.25% หรือ 25bps หุ้นธนาคารรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกในรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของพวกเขากับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา, กับ STI รุ่นใหญ่ที่สุดของ DBS Group Holdings, ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ธนาคารยังมีความอ่อนไหวของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ S$ 18 ล้านดอนล่าร์สิงคโปร์ ถึง S$ 20 ล้านดอนล่าร์สิงคโปร์ต่อ 0.01% หรือ 1 bps ของ อัตราดอกเบี้ย USD ในขณะที่ธนาคารจดทะเบียนทั่วโลกคิดเป็นมากกว่า 10% ของมูลค่าตามราคาตลาดโลก แต่ก็คิดเป้นสัดส่วนมากกว่า 40% ของ STI ดังนั้น ผลกระทบของ DBS Group Holdings, Oversea-Chinese Banking Corporation และ United Overseas Bank เฉลี่ยลดลง 10% นับตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. ส่งผลกระทบต่อ STI มากกว่าดัชนีทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากหุ้นธนาคารทั่วโลกที่ลดลง 9%
กองทุน ETF ที่มีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งที่สุดห้ากองทุนที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ในปี 2022 จนถึงสิ้นสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ Phillip MSCI Singapore Daily (-1X) Inverse Product, SPDR Goldshares ETF, Xtrackers MSCI INdonesia Swap UCITS ETF, Principal FTSE ASEAN40 ETF และ Principal S&P APAC Dividend ETF ในขณะที่ ผลงานที่น้อยที่สุดของชุด ETF ได้แก่ the Phillip MSCI Singapore Daily (2x) Leveraged Product, the Lion-OCBC Securities Hang Seng TECH ETF, the NikkoAM-StraitsTrading MSCI China Electric Vehicles And Future Mobility ETF, iShares USD Asia High Yield Bond Index ETF และ the Lyxor MSCI China ESG Leaders Extra (DR) UCITS ETF.
เมื่อรวม ETF 36 กองทุน มีเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ S$700 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปี 2022 ถึง 4 มีนาคม ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก iShares USD USD Asia High Yield Bond Index ETF. NikkoAM-StraitsTrading MSCI China Electric Vehicles and Future Mobility ETF ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม และ Lion-Phillip S-REIT ETF ได้เห็นการไหลเข้าสุทธิสูงสุดต่อไปในปี 2022 จนถึงวันที่ 4 มีนาคม
กองทุน 36 ETFs ที่จดทะเบียนใน SGX โดยเรียงลําดับตามการไหลเข้าสูงสุดในปี 2022 ถึง 4 มีนาคม แสดงไว้ตามตารางด้านล่าง
ETF เป็นกองทุนรวมเพื่อการลงทุนที่จดทะเบียนและซื้อขายระหว่างวันในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อติดตามผลการดําเนินงานของดัชนีและให้การเข้าถึงตลาดและประเภทสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมถึงหุ้นในประเทศ, หลักทรัพย์ระหว่างประเทศ, พันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือตลาดเงิน แต่ละ ETF ให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงประสิทธิภาพของสินทรัพย์ซึ่งประกอบด้วยดัชนีอ้างอิง การลงทุนใน ETF ยังมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า หากต้องสร้างพอร์ตที่คล้ายกันโดยการซื้อหุ้นแต่ละตัว พอร์ตโฟลิโอเหล่านี้ยังให้โอกาสในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศและประเภทสินทรัพย์ที่อาจไม่สามารถเข้าถึงของนักลงทุนรายย่อยได้