09 Jun 2025 | Category: Market Updates
S-REIT ที่อยู่ใน STI และรายการหลักทรัพย์สำรองของ STI ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน
ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX), Bloomberg (ข้อมูล ณ วันที่ 5 มิ.ย. 2568) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอ้างอิงจาก SREITs & Property Trusts Chartbook ไตรมาสที่ 1 ปี 2568
หลังจากการประเมินรายไตรมาสของดัชนี Straits Times (STI) ในเดือนมิถุนายน Kepple DC REIT จะเข้าร่วมในดัชนีแทน Jardine Cycle & Carriage โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเพิ่มจำนวนกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ที่ลงทุนในทรัพย์สิน (S-REIT) ในดัชนีเป็นแปดกอง
S-REIT ทั้งแปดกองใน STI จะเป็น CapitaLand Ascendas REIT, CapitaLand Integrated Commercial Trust, Frasers Centrepoint Trust, Frasers Logistics & Commercial Trust, Mapletree Industrial Trust, Mapletree Logistics Trust และ Mapletree Pan Asia Commercial Trust
Keppel DC REIT ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กลับเข้าร่วม STI อีกครั้งหลังจากที่ออกจากดัชนีในเดือนมิถุนายน 2566 และคาดว่าจะช่วยเพิ่มน้ำหนักรวมของ S-REIT ในดัชนีให้เกิน 10%
Keppel DC REIT ซึ่งเป็น REIT แห่งแรกในเอเชียที่ลงทุนเฉพาะในศูนย์ข้อมูล จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2557 โดยมีศูนย์ข้อมูล 8 แห่ง และมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ปัจจุบัน กองฯ เป็นเจ้าของศูนย์ข้อมูล 24 แห่งใน 10 ประเทศ โดยมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการมูลค่า 4.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในจำนวนนี้ 81.6% อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (66.3% อยู่ในสิงคโปร์) และอีก 18.4% อยู่ในยุโรป
ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2568 ของ Keppel DC REIT เผยให้เห็นถึงรายได้ส่วนที่ปันผลได้ที่เพิ่มขึ้น 59.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีรายได้รวมและรายได้สุทธิจากอสังหาริมทรัพย์ (NPI) โตขึ้น 22.6% และ 24.1% ตามลำดับ เงินปันผลต่อหน่วยของกองฯ เพิ่มขึ้น 14.2% เป็น 0.02503 ดอลลาร์สิงคโปร์สำหรับไตรมาสแรกนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการของ Keppel DC Singapore 7 & 8, Tokyo Data Centre 1 และส่วนรายได้ที่สูงขึ้นจากการต่อสัญญาและการปรับขึ้นตามสัญญาในปี 2567 การปรับขึ้นค่าเช่าของทรัพย์สินในพอร์ตอยู่ที่ 7% โดยไม่มีการต่อสัญญาครั้งใหญ่ในไตรมาสแรกของปี 2568 และอัตราการเช่าพื้นที่ของทรัพย์สินในพอร์ตยังคงอยู่ที่ 96.5% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568
นาย Loh Hwee Long ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุ ณ การประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีว่า Keppel DC REIT มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในปี 2567 โดยเฉพาะจากทรัพย์สินประเภท Colocation (การให้เช่าพื้นที่ภายในศูนย์ข้อมูล) ในสิงคโปร์ โดยที่ทรัพย์สินในยุโรปเองก็มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินท้องถิ่นถึงแม้ว่าศูนย์ขนาดมูลที่ขนาดเล็กกว่าจะมีผลการดำเนินการน้อยก็ตาม ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอที่กระจายการลงทุนในทรัพย์สินหลากหลายประเภทและมุ่งเน้นที่มูลค่าเป็นหลัก
Keppel DC REIT ได้ดำเนินการเข้าซื้อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 กองฯ ได้ขยายเข้าสู่ตลาดใหม่อย่างญี่ปุ่นโดยการเข้าซื้อกิจการของ Tokyo Data Centre 1 และยังได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลสำหรับ AI (AI-ready hyperscale data centre) 2 แห่งในสิงคโปร์จาก Keppel ที่เป็นบริษัทจัดการทรัพย์สินของกองฯ ซึ่งนับเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดที่มีมูลค่าเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์นับตั้งแต่จดทะเบียนเข้าในตลาดหลักทรัพย์มา ตามรายงานประจำปีของกองฯ Keppel บริษัทจัดการทรัพย์สินของกองฯ วางแผนที่จะขยายพอร์ตทรัพย์สินศูนย์ข้อมูลให้รองรับได้ถึง 1.2 GW (กิกะวัตต์) ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งอาจเป็นแหล่งทรัพย์สินที่ Keppel DC REIT สามารถเข้าซื้อได้ในอนาคต
ในปีงบการเงิน 2567 Keppel DC REIT มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมลดลง 15.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และได้รับรางวัล GRESB Green Star ติดต่อกันเป็นปีที่สาม โดยมีทรัพย์สิน 6 แห่งในสิงคโปร์และดับลิน (Dublin) ที่ยังคงได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมอยู่
สำหรับการซื้อขายในปีนี้ Kepple DC REIT ติดอันดับหุ้น 20 ตัวแรกที่มีการซื้อขายสูงสุด และยังติดอันดับใน S-REIT 5 กองที่มีการซื้อขายมากที่สุด
รายการหลักทรัพย์สำรองของ STI ซึ่งประกอบด้วยหุ้น 5 ตัวที่มีอันดับสูงสุดที่ไม่ได้อยู่ใน STI จะเป็น CapitaLand Ascott Trust, ComfortDelGro, Keppel REIT, NetLink NBN Trust และ Suntec REIT (เรียงตามลำดับตัวอักษร)
สําหรับการวิจัยและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาค REIT ของสิงคโปร์ โปรดไปที่ https://www.sgx.com/securities/sectors สําหรับแผนภูมิ SREITs & Property Trusts
REIT Watch เป็นคอลัมน์ประจำใน The Business Times อ่านเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่นี่ https://www.businesstimes.com.sg/companies-markets/s-reits-secondary-fundraising-rebounds-2024-more-may-tap-capital-markets-next-year